กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับทุนวิจัยวัณโรคดื้อยาฯ รณรงค์คนไทยใช้หน้ากากอนามัยเมื่อป่วยโรคทางเดินหายใจ ป้องกันแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่น และล้างมือบ่อยๆ ลดความเสี่ยงในการแพร่และรับเชื้อโรค โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจที่มารับบริการในโรงพยาบาล ปีนี้ขยายผลในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 834 แห่งทั่วประเทศ พร้อมจัดสัปดาห์รณรงค์ 22-28 มิถุนายนนี้
วันนี้ (16 มิถุนายน 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ศิริราชมูลนิธิ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และคุณนิโคล เทริโอ ศิลปินบริษัทแกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ร่วมกันแถลงข่าว การรณรงค์ใช้หน้ากากอนามัยในโรงพยาบาล เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจและโรคติดต่ออุบัติใหม่ต่างๆ พร้อมกันนี้ ได้มีการมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดวีดีโอคลิป เรื่อง คนรุ่นใหม่ใส่ใจใช้หน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อโรคทางเดินหายใจ โดยรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ น.ส.ชัคคนตา เพ็งอุดม และนายดิษพงศ์ วงศ์อร่าม ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 15,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศ 2 รางวัล รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 7,500 บาท ได้แก่ 1.นายราชันต์ ชูทอง และ2.นายวัชระ ดวงเกิด และนายธันยา ศรีรัตน์
นายมานิต กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ศิริราชมูลนิธิในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ จัดโครงการสัปดาห์รณรงค์การใช้หน้ากากอนามัยควบคู่กับการล้างมือในโรงพยาบาลต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-28 มิถุนายน 2552 โดยในปีนี้ จะขยายครอบคลุมโรงพยาบาลในสังกัด 834 แห่งทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยโรคติดต่อทางเดินหายใจที่มารับการรักษาในโรงพยาบาล สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีในการป้องกันการแพร่เชื้อโรคสู่ผู้อื่น รวมทั้งให้บุคลากรในโรงพยาบาลเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้หน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ สร้างค่านิยมให้ประชาชนมีความรับผิดชอบต่อสังคม ใส่ใจห่วงใยคนรอบข้าง โดยข้อมูลองค์การอนามัยโลกพบว่า การใส่หน้ากากอนามัยจะช่วยลดการแพร่กระจายของละอองเล็กๆ จากการไอ จามที่มีเชื้อโรคอยู่ ได้ถึงร้อยละ 80 และการล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังการไอ จาม หรือสัมผัสน้ำมูก จะช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะสนับสนุนหน้ากากอนามัยให้โรงพยาบาลทุกแห่งจำนวนกว่า 1 ล้านชิ้น
ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคติดต่อทางเดินหายใจต่างๆ รวมถึงโรคติดต่ออุบัติใหม่ เช่น โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก และโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้ รวมทั้งวัณโรค มีการแพร่กระจายเชื้อได้ 2 ทาง คือ การสัมผัสทางตรง จากการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยและมีการไอ จามรดกัน ซึ่งป้องกันได้ด้วยการให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย และการสัมผัสทางอ้อม โดยมือที่สัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน แล้วมีการสัมผัสกับจมูก ตา หรือนำเข้าปาก ซึ่งการล้างมือบ่อยๆ จะช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจสวมหน้ากากอนามัยในโรงพยาบาล ยังช่วยลดการแพร่เชื้อไปยังผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ ญาติและผู้ที่มาเยี่ยมผู้ป่วย ด้วย
ทางด้านนายแพทย์สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับโรคติดต่อทางเดินหายใจที่สำคัญของประเทศไทย ได้แก่ วัณโรค ปอดบวม และ โรคไข้หวัดใหญ่ โดยสถานการณ์ปี 2551 มีผู้ป่วยวัณโรคทั้งหมด 25,248 ราย เสียชีวิต 134 ราย โรคปอดบวม มีผู้ป่วยทั้งหมด 136,585 ราย เสียชีวิต 957 ราย และ ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 20,881 ราย เสียชีวิต 2 ราย ส่วนในปี 2552 ตั้งแต่ 1 มกราคม-9 มิถุนายน 2552 ได้รับรายงานผู้ป่วยวัณโรคแล้ว 11,675 ราย เสียชีวิต 64 ราย โรคปอดบวม 48,659 ราย เสียชีวิต 398 ราย และผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ปกติที่ระบาดตามฤดูกาล 5,607ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
สำหรับโครงการรณรงค์การใช้หน้ากากอนามัย ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2550 จากการประเมินผลพบว่าบุคลากรมีพฤติกรรมการใช้หน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 96 ส่วนผู้ป่วยใช้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 80 โดยผู้ป่วยร้อยละ 86 เห็นว่าหน้ากากอนามัยช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ แต่ยังมีผู้ป่วยอีกร้อยละ 20 เห็นว่าการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอาจถูกรังเกียจ ซึ่งมั่นใจว่าการรณรงค์อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มพฤติกรรมการใช้หน้ากากอนามัยในผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้และจะช่วยให้ทุกคนยอมรับว่าการสวมหน้ากากอนามัยถือว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ที่ผู้ป่วยไข้หวัดจะไม่แพร่เชื้อให้กับคนอื่นๆ
********************************* 16 มิถุนายน 2552
View 8
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ