รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการ ฯระบุคลินิกที่จะเข้าร่วมจ่ายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ รักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข 8 ข้อที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ป้องกันเชื้อดื้อยา แนะประชาชนหากเป็นไข้โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงให้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลรัฐ ทั่วประเทศ มียารักษาเพียงพอ
วันนี้ (28 กรกฎาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์ในคลินิก เพื่อให้ประชาชนที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าถึงยาว่า การเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ฯ ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่เสียชีวิตเนื่องจากมีโรคประจำตัว ส่วนหนึ่งไปรักษาและได้รับยาช้า จึงต้องเร่งแก้ไข โดยได้นำข้อมูลนี้รายงานต่อคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาทางวิชาการ ซึ่งจะเป็นผู้ชี้และแนะนำกำหนดแนวทางทั้งหมดให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ
ผลจากการประชุมเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานว่า คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาทางวิชาการได้กำหนดยุทธศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข มีข้อแนะนำให้กระจายยาในคลินิกได้ แต่มีเงื่อนไขต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด 8 ข้อ ซึ่ง เป็นไปตามการชี้แนะของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาระดับชาติ โดยมีอาจารย์จากทุกมหาวิทยาลัยเป็นคณะอนุกรรมการ เพื่อระมัดระวังปัญหาดื้อยา กระทรวงสาธารณสุขพร้อมปฏิบัติตาม ซึ่งการควบคุมการใช้ยาในคลินิกทำได้ไม่ยาก เนื่องจากแพทย์ในคลินิกต่างจังหวัด ส่วนหนึ่งเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว
นายวิทยากล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้จะประชุมนายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด และจะแจกข้อสรุปเงื่อนไขดังกล่าวเป็นคู่มือ เพื่อให้คลินิกที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติตาม เพื่อให้แพทย์จ่ายยาด้วยความระมัดระวัง โดย ประชาชนที่เข้าไปรักษาที่คลินิกจะต้องเสียเงินค่ารักษาเอง แต่หากใช้บริการในโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพจะให้การรักษาฟรี ซึ่งขณะนี้เปิดช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ไว้แล้ว และมียารักษาเพียงพอ
อยากเรียกร้องให้ประชาชน หากป่วยไม่สบายให้เข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยเฉพะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ส่วนคนที่สุขภาพดีหากเป็นไข้ หากดูอาการที่บ้าน กินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดภายใน 2 วัน ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที นายวิทยา กล่าว
*********************************** 28 กรกฎาคม 2552
View 15
28/07/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ