รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยันโครงการไทยเข้มแข็งของสธ.ขณะนี้ยังไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น ด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งธงดำเนินการเฉียบขาด หากผลสอบพบมีข้าราชการสธ. เกี่ยวพันการทุจริตโครงการนี้ จะดำเนินทางวินัยต่อ หากเป็นนักการเมือง ตามระเบียบจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ขณะนี้ได้เดินสายประชุมชี้แจงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และสถานีอนามัย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคใต้ไปแล้ว ส่วนที่เหลือจะเร่งชี้แจงให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากกระทรวงต้องดำเนินการโครงการนี้ด้วยความโปร่งใส ทุกอย่างที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงสาธารณสุขต้องกล้าที่จะทบทวนทั้งหมด ส่วนคณะกรรมการ 2 ชุดที่ตั้งขึ้นนั้น จะต้องดำเนินการให้คืบหน้าโดยเร็ว ถ้าไม่คืบหน้าจะต้องมีเหตุผลสามารถอธิบายต่อสาธารณชนได้ โดยหากผลการตรวจสอบออกมาแล้วว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่มีการทุจริต ก็อาจจะเสนอให้คนนอกมาตรวจซ้ำอีกครั้ง “ขอยืนยันว่า โครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง จึงยังไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น แต่ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป ต้องสามารถยืนยันว่าโครงการนี้โปร่งใส จึงจะนำเงินจากสำนักงบประมาณมาใช้ได้ ไม่อยากให้การสอบสวนเรื่องทุจริตเป็นเรื่องการเมือง และไม่อยากให้โยงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการแต่งตั้งโยกย้าย ทั้งนี้ได้ประกาศนโยบายไปแล้วว่า ห้ามมีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงนี้อย่างเด็ดขาด ส่วนเรื่องการโยกย้ายข้าราชการประจำ ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดูแล จะไม่เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด”นายวิทยากล่าว ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานการตรวจสอบรายการครุภัณฑ์ที่มีกระแสไม่โปร่งใสและตกเป็นข่าว 7 รายการ และชุดทบทวนความเหมาะสม รวมทั้งชุดทำงานย่อย 3 ชุด และชุดของผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 18 เขต กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้ผลสรุปเบื้องต้นในวันที่ 13 ตุลาคม 2552 และยืนยันว่าโครงการนี้จะเดินหน้าอย่างแน่นอน นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ได้วางกรอบการดำเนินการหลังจากทราบผลการตรวจสอบ หากผิดตรงไหนจะเร่งแก้ไขให้ตรงจุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น โดยหากเป็นข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข และมีมูลจริง จะตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง และหากเกี่ยวข้องจริงจะสอบสวนทางวินัย ตามระเบียบของข้าราชการพลเรือนอย่างถึงที่สุด หากผู้เกี่ยวข้องเป็นนักการเมือง ตามระเบียบเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา เนื่องจากกระทรวงฯต้องการให้เม็ดเงินในโครงการนี้ 86,000 ล้านบาท ถึงประชาชนทุกพื้นที่ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับการให้บริการไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณลงทุนพัฒนาทั้งเครื่องมือแพทย์และอาคารบริการต่างๆมาเกือบ 8 ปี ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้จะแถลงข่าวผลการตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็งเบื้องต้น และได้ให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ และสำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค จัดทำแผนผังขั้นตอนการดำเนินงานของกระทรวงฯ เริ่มตั้งแต่กระบวนการให้สถานบริการต่างๆจัดทำคำขอมายังกระทรวงสาธารณสุข ขั้นตอนการจัดสรรของกระทรวงสาธารณสุขรวมทั้งการกำหนดราคาที่ตั้งคำของบประมาณ ขั้นตอนการทำสัญญาจัดจ้างเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณ โดยจะมีการดำเนินการตามระเบียบพัสดุ พ.ศ. 2535 อย่างเคร่งครัดต่อไป *************************** 12 ตุลาคม 2552


   
   


View 2       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ