สาธารณสุข เร่งจัดทำข้อกำหนด ควบคุมมาตรฐานการใช้เซลล์ต้นกำเนิด รักษาผู้ป่วย ให้แล้วเสร็จภายในปี 2553 ครอบคลุมตั้งแต่ห้องแล็ป การวิจัย ผลิตภัณฑ์ และการตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด เพื่อใช้เป็นคู่มือมาตรฐานกลางของประเทศ และในปีหน้า จะเริ่มลงมือวิจัยการใช้เซลล์ต้นกำเนิดรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด โรคข้อเข่าเสื่อม และโรคเบาหวาน นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดและไขกระดูก ที่โรงพยาบาลวัฒโนสถ กทม. เช้าวันนี้ (30 ตุลาคม 2552) ว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาโรคบางชนิด จัดเป็นวิทยาการความก้าวหน้าทางการแพทย์ระดับสูง สามารถนำมารักษาโรคที่เกิดจากการสร้างเม็ดเลือดที่ไขกระดูกลดลงหรือผิดปกติได้แล้ว เช่น ในผู้ป่วยโรคโลหิตจาง โรคมะเร็ง ถือเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ ส่วนการรักษาวิธีอื่น ๆ ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมให้แพทย์ นักวิจัยไทยพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดเช่นเดียวกับทั่วโลก เพื่อยกระดับมาตรฐานของวงการแพทย์ไทย ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเนื่องจากเกี่ยวข้องกับจริยธรรมทางการแพทย์ โดยได้ตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อจัดทำข้อกำหนดและคู่มือ 4 ด้านดังนี้ ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดทำข้อกำหนดทางห้องปฏิบัติการหรือห้องแล็ปที่จะศึกษาวิจัย ให้กรมการแพทย์จัดทำข้อกำหนดด้านงานวิจัยทางคลินิก ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจัดทำข้อกำหนดด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ต้นกำเนิด และสภากาชาดไทยจัดทำข้อกำหนดธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด เพื่อใช้เป็นคู่มือมาตรฐานกลางของประเทศไทยให้เสร็จสิ้นภายในปี 2553 เพื่อใช้เป็นกรอบให้นักวิจัยและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิดปฏิบัติตาม โดยให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตรียมจัดการประชุมระดับชาติเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อระดมสมองในการจัดทำคู่มือมาตรฐานดังกล่าว และเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน คาดว่าจะจัดประมาณกลางปี 2553 สำหรับความก้าวหน้าในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เปิดศูนย์วิจัยเซลล์ต้นกำเนิดทางคลินิกเมื่อเดือนมกราคม 2552 เพื่อศึกษาวิจัยขั้นสูงในการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิด 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. พัฒนาวิธีการแยกและเพาะเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐาน นำไปใช้ในการวิจัยเพื่อรักษาโรค โรคหัวใจ โรคกระดูกและข้อ 2. วิจัยและพัฒนาวิธีการตรวจสอบคุณภาพของเซลล์ต้นกำเนิด ให้ห้องปฏิบัติการอื่น ๆ ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และ 3. ร่วมกับหน่วยงานอื่นในการใช้เซลล์ต้นกำเนิดรักษาโรคที่ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ หากสำเร็จจะเป็นข่าวดีในวงการแพทย์ของไทย ทั้งนี้ ในปี 2553 นี้ จะเริ่มการวิจัยการใช้เซลล์ต้นกำเนิดรักษาผู้ป่วย 3 โรค ได้แก่โรคข้อเข่าเสื่อมจากการเสียดสีทดแทนการใช้กระดูกอ่อน ที่โรงพยาบาลเลิศสิน โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ที่สถาบันโรคทรวงอก และการทดลองรักษาโรคเบาหวานร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งอยู่ในขั้นตอนทดลองปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดในสัตว์ทดลอง หากสำเร็จจะเป็นข่าวดีในวงการแพทย์ของไทย และเป็นความหวังของผู้ป่วยไทยที่ได้ใช้เซลล์ต้นกำเนิดมาใช้รักษาหรือซ่อมแซมอวัยวะต่างๆของร่างกายที่ผิดปกติจากการเป็นโรค ความเสื่อมของร่างกาย ความสูงอายุ และจากสาเหตุอื่นๆ นายวิทยากล่าว ******************************* 30 ตุลาคม 2552


   
   


View 15    30/10/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ