กระทรวงสาธารณสุข สรุปผลพิจารณาการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ของหน่วยงานในโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ 2553 ให้เดินหน้าจัดซื้อจัดจ้างรายการที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตรงตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติในพระราชกำหนด โดยยึดราคากลางของกองแบบแผน และราคากลางของพื้นที่ และส่งผลการจัดซื้อจัดจ้างภายใน 30 พฤศจิกายน 2552 ตามนโยบายเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล ส่วนรายการที่ขอทบทวนจะเร่งจัดทำรายละเอียดให้เสร็จสิ้นภายในวันศุกร์นี้ เพื่อส่งเข้าสำนักงบประมาณ และคณะกรรมการกลั่นกรอง พิจารณาโดยเร็วที่สุด วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.สถาพร วงษ์เจริญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประธานคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการทบทวนสิ่งก่อสร้างที่ได้รับตามพระราชกำหนด (พรก.) ว่า จากมติที่ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ซึ่งมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 ได้มีนโยบายให้ทุกส่วนราชการเบิกจ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ครบ 100 เปอร์เซนต์ของวงเงินตามที่ได้รับการอนุมัติในปีนั้นๆ โดยในปีงบประมาณ 2553 จะต้องลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้เสร็จภายใน 15 วันหลังจากได้รับจัดสรรเงินจากสำนักงบประมาณ ซึ่งรายการที่ประกวดราคาจะต้องตรงกับรายการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติในพรก. และส่งผลการจัดซื้อจัดจ้างส่งให้สำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ถ้าไม่แล้วเสร็จให้ถือว่ายกเลิกโครงการ ดังนั้นคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข จึงได้เร่งหาข้อสรุปเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนด โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รับอนุมัติเงินตาม พรก. 11,515 ล้านบาท เป็นงบประมาณในปี 2553 จำนวน 8,227 ล้านบาท นายแพทย์สถาพร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการได้ข้อสรุปว่า การก่อสร้างสิ่งก่อสร้างและอาคารต่าง ๆ ของหน่วยงานสาธารณสุขทุกระดับตามงบประมาณในพระราชกำหนด (พรก.) ในส่วนโครงการต่าง ๆ ของกรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท สถาบันพระบรมราชชนก โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ที่ตรงตามรายการ สถานที่ และวงเงินตามที่ครม.อนุมัติ จะนำเสนอปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาอนุมัติให้จังหวัดสามารถเดินหน้าดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และส่งให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาก่อนส่งต่อให้สำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ทั้งนี้ ให้ทุกจังหวัดยึดราคากลางที่กองแบบแผน กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ถอดแบบคำนวณราคาวัสดุและค่าแรงตามเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ และราคากลางของพื้นที่ เป็นหลักในการพิจารณาผลการจัดซื้อ หากราคาที่จังหวัดจัดซื้อจัดจ้างสูงกว่าราคาดังกล่าว คณะกรรมการพิจารณาที่ส่วนกลางจะส่งเรื่องกลับเพื่อต่อรองราคาใหม่ให้เหมาะสม ก่อนส่งเรื่องไปสำนักงบประมาณ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดและโดยเร็วที่สุด ส่วนรายการที่ต้องการทบทวน ได้แก่ โครงการการลงทุนระดับชุมชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรายการคงเดิม แต่ปรับลดวงเงินและขอเพิ่มรายการก่อสร้าง รวมทั้งรายการของโรงพยาบาลชุมชนและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ซึ่งขอปรับเปลี่ยนรายการประมาณร้อยละ 50 ได้ให้คณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุด จัดทำรายละเอียดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เพื่อส่งเข้าสำนักงบประมาณ และคณะกรรมการกลั่นกรองโดยเร็ว และเสนอครม.ให้ทันวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 **************** 18 พฤศจิกายน 2552


   
   


View 11    18/11/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ