เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุขครบรอบ 67 ปีในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศข่าวดีประชาชนชาวไทย จะมีระบบการแพทย์สาธารณสุขที่แข็งแกร่งขึ้น ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า มีศูนย์รักษาเฉพาะทางทั้งด้านการแพทย์แผนไทยสมุนไพร ควบคู่ศูนย์เฉพาะแพทย์แผนปัจจุบันที่ทันสมัยรักษาโรคหัวใจ โรคมะเร็ง อุบัติเหตุ อย่างได้มาตรฐาน ปลอดภัยครอบคลุมทุกภูมิภาค 118 แห่ง เช้าวันนี้ ( 27 พฤศจิกายน 2552 ) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้แทนหน่วยงาน สมาคมองค์กรต่างๆ ทำพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ผู้ทรงวางรากฐานการสาธารณสุขของประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า ที่บริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุขครบรอบ 67 ปี และทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน จากนั้นได้ประกอบพิธีสงฆ์ และอุทิศส่วนกุศลให้อดีตข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขที่ล่วงลับไปแล้ว นายวิทยา กล่าวว่า วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 เป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข ปีที่ 67 และเป็นปีที่ 91 ของการพัฒนาสาธารณสุขไทย ซึ่งมีความก้าวหน้าตามลำดับ แต่อย่างไรก็ดีปัญหาการเสียชีวิตของคนไทยขณะนี้ เปลี่ยนไปจากอดีตที่ตายเพราะโรคติดเชื้อ โดยสาเหตุการตายหลัก 4 อันดับแรก ล่าสุดในปี 2550 มีสาเหตุจากพฤติกรรมสุขภาพ อันดับ 1 ได้แก่โรคมะเร็ง เสียชีวิตทั้งหมด 53,434 ราย อันดับ 2 ได้แก่อุบัติเหตุ 35,661 ราย อันดับ 3 โรคหัวใจ 18,452 ราย อันดับ 4ความดันโลหิตสูง 15,286 ราย โรคเหล่านี้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและทั่วโลก จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนระบบบริการให้เหมาะสม เพื่อรับมือทั้งการส่งเสริมป้องกันไม่ให้คนป่วย การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพคนที่ป่วยแล้ว นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนการพัฒนาระบบบริการสุขภาพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เชื่อมั่นว่าในอีก 3-4 ปี ประเทศไทยจะมีระบบการแพทย์และสาธารณสุขที่แข็งแกร่งขึ้นจากโครงการไทยเข้มแข็ง มีโรงพยาบาลชุมชนครบทุกอำเภอ มีบริการทางการแพทย์แผนไทยที่มีมาตรฐาน ควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันที่มีเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษาผู้เจ็บป่วย เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สมบูรณ์แบบเทียบเท่าอารยประเทศ โดยจัดตั้งโรงพยาบาลแพทย์แผนไทย 1 แห่ง เพื่อเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยทางคลินิกด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรครบวงจรของประเทศ นำมาขยายผลในภาคบริการประชาชน จัดตั้งศูนย์รักษาเฉพาะทาง ได้แก่ศูนย์โรคหัวใจในภูมิภาค 40 แห่ง ศูนย์มะเร็ง 26 แห่ง และศูนย์อุบัติเหตุ 51 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ศูนย์เหล่านี้จะมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญและเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยบริการ เมื่อการดำเนินการแล้วเสร็จ ประชาชนจะได้รับบริการที่ใกล้บ้าน มีความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตสูงขึ้น จะสามารถลดอัตราการป่วย การตายจากโรคหัวใจ โรคมะเร็งและลดอัตราการตายความพิการในผู้ป่วยจากอุบัติเหตุได้มากยิ่งขึ้น ส่วนสถานีอนามัยที่มีอยู่ 9,762 แห่ง จะพัฒนาขีดความสามารถให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้งหมดในปีพ.ศ.2555 พร้อมให้บริการรักษาประชาชนอย่างรวดเร็ว และดูแลสุขภาพประชาชนไม่ให้ป่วยด้วย **************************************** 27 พฤศจิกายน 2552


   
   


View 11    27/11/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ