โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ จัดงานแสดงผลการทำงานครบรอบ 4 ปี มีสมาชิกโครงการฯใน 39 จังหวัด ผลการประเมินการพัฒนาสมาชิกในโครงการฯ 2,531 ครอบครัว ประสบผลสำเร็จในเกณฑ์ดี ทั้งความมั่นคงอาชีพ รายได้ ครอบครัวอบอุ่น และสุขภาพอนามัยดี หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์เร็วขึ้น อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมนาน 6 เดือนเพิ่มขึ้น 6 เท่าตัว เป็นร้อยละ 30 เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบมีพัฒนาการสมวัยมากถึงร้อยละ 90 พร้อมขยายผลโครงการให้ครอบคลุม 76 จังหวัด ภายในปี 2555 วันนี้ (9 ธันวาคม 2552) เวลา 14.00 น. ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน “4 ปีสายใยรักแห่งครอบครัว” เนื่องในโอกาสวาระครบ 4 ปี โครงการฯในวันที่ 9 ธันวาคม 2552 และวโรกาสคล้ายวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โดยมีนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวง 7 กระทรวง ได้แก่ สาธารณสุข ศึกษาธิการ มหาดไทย เกษตรและสหกรณ์ พัฒนาสังคมฯ แรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติฯ และข้าราชการ เจ้าหน้าที่เฝ้ารับเสด็จฯ โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เริ่มต้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2548 และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเกิดกระบวนการเรียนรู้และบูรณาการร่วมกันของ 7 กระทรวง ประกอบด้วย สาธารณสุข ศึกษาธิการ มหาดไทย เกษตรและสหกรณ์ พัฒนาสังคมฯ วัฒนธรรม แรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติฯ และ 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ กรุงเทพมหานคร และศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มีความรัก ความอบอุ่น ทารกได้รับการดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมแม่ ครอบครัวมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มีอาชีพเสริมรายได้เพิ่ม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง บ้านเรือนมีสุขอนามัยดี เป็นครอบครัวที่เข้มแข็ง ชุมชนและท้องถิ่นมีส่วนร่วมการพัฒนาเป็นชุมชนเข้มแข็ง ปัจจุบันมีพื้นที่ดำเนินการ 39 จังหวัด มีสมาชิก 2,531 ครอบครัว จังหวัดที่มีสมาชิกมากที่สุด คือ สงขลา 208 ครอบครัว สมาชิกร้อยละ 72 อายุระหว่าง 21–50 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน จากการประเมินผลการดำเนินงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวตลอด 4 ปี โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 พบว่าประสบผลสำเร็จ มีการพัฒนาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคงของอาหาร อาชีพรายได้ พบว่า สมาชิกร้อยละ 17 มีอาชีพรายได้และผลิตอาหารบริโภคเพียงพอตลอดปี อีกร้อยละ 66 มีอาชีพรายได้ แต่ผลิตอาหารบริโภคตลอดปียังไม่เพียงพอ สมาชิกร้อยละ 86 เข้าร่วมกลุ่มโครงการต่างๆ ของชุมชน เช่น กลุ่มแม่บ้าน เกษตรกร และนำความรู้ไปพัฒนาอาชีพและความเป็นอยู่ มีสมาชิกร้อยละ 17 ที่มีอาชีพ รายได้ การผลิตอาหารบริโภคยังไม่เพียงพอ ต้องส่งเสริมพัฒนาต่อ ในด้านความอบอุ่นของครอบครัวและชุมชน พบว่า ครัวเรือนของสมาชิกโครงการฯ ร้อยละ 51 เป็นครอบครัวขยาย สมาชิกเฉลี่ย 4 คน ครอบครัวร้อยละ 8 มีผู้พิการ และร้อยละ 13 มีเด็กกำพร้า โดยมีครัวเรือนร้อยละ 11 ที่เป็นครอบครัวอบอุ่น สมาชิกอยู่ร่วมกันพร้อมหน้า มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติต่อกันด้วยดี ชุมชนช่วยเหลือเกื้อกูล อีกร้อยละ 76 เป็นครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า แต่มีปฏิสัมพันธ์กันบ้าง และชุมชนยังรวมตัวไม่สม่ำเสมอ โดยมีครัวเรือนร้อยละ 13 ที่สมาชิกไม่ได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า เนื่องจากต้องแยกกันอยู่เพื่อประกอบอาชีพ และชุมชนยังไม่เข้มแข็ง สำหรับด้านความเข้มแข็งของสุขอนามัยและสภาพแวดล้อม พบว่า สมาชิกโครงการฯ ร้อยละ 16 มีพฤติกรรมสุขภาพอนามัยในเกณฑ์ดี บ้านเรือนสะอาด เข้าถึงบริการสุขภาพได้ดี เช่นการฝากครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ร้อยละ 77 ฝากครรภ์เมื่ออายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ ซึ่งช่วยลดอันตรายหรือโรคแทรกซ้อนได้ อีกร้อยละ 72 มีพฤติกรรมสุขภาพค่อนข้างดี แต่ปฏิบัติไม่สม่ำเสมอ และบ้านมีความสะอาดพอใช้ อีกร้อยละ 12 อยู่ในเกณฑ์น่าห่วง ต้องให้การดูแลใกล้ชิด เช่นเยี่ยมหลังคลอด ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การดูแลบ้านเรือนให้สะอาดน่าอยู่ ทั้งนี้ ผลของโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวตลอด 4 ปี พบว่าอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวเป็นเวลา 6 เดือน ในภาพรวมทั้งประเทศของหญิงหลังคลอด เพิ่มขึ้น 6 เท่าตัว จากเดิมร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 30 ในปี 2552 การเจริญเติบโตของเด็กแรกเกิด- 5 ปี เหมาะสมทั้งน้ำหนักและส่วนสูง มีพัฒนาการสมวัยมากถึงร้อยละ 90 ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัวระดับทองจังหวัด รวม 477 แห่ง มีพี่เลี้ยงนมแม่ในโรงพยาบาลกว่า 800 คน และมีอาสาสมัครนมแม่ช่วยส่งเสริมให้หญิงหลังคลอดบุตรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในชุมชนกว่า 40,000 คน นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกที่ตั้งครรภ์ได้รับความรู้ขณะตั้งครรภ์ 2 ครั้ง ร้อยละ 95 โดยหญิงหลังคลอดร้อยละ 76 ได้กอดลูก และให้ลูกดูดนมมารดาภายใน 1 ชั่วโมงหลังคลอด ร้อยละ 93 ได้รับการเยี่ยมบ้านหลังคลอด และนัดให้พาลูกไปตรวจสุขภาพ รับวัคซีนตามเกณฑ์อายุ ขณะนี้ การทำงานของโครงการสายใยรักฯอยู่ในช่วงที่ 3 พ.ศ.2552 – 2555 เป็นการต่อยอดและขยายผลโครงการ ด้วยกลไกเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ ผ่านศูนย์การเรียนรู้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว 4 ภูมิภาค อีกทั้ง ขยายผลโครงการให้ครอบคลุม 76 จังหวัด ด้วยกลยุทธ์การพัฒนา 4 ข้อ คือ 1.ครอบครัวเป็นฐานหมู่บ้านเป็นหลัก 2. สายใยรักก่อสาน ผสมงานผสานใจ 3.ขับเคลื่อนค่อยเป็นไป ด้วยกลไกของข้อมูล และ4.เพิ่มพูนอย่างพอเพียง ร้อยเรียงเพื่อพึ่งตน ****************************** 9 ธันวาคม 2552


   
   


View 2       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ