สธ.ตั้งเป้าเคลือบร่องฟันกรามเด็ก ป. 1 และป.6 จำนวน 1 ล้านซี่ในปี 2553 ป้องกันฟันผุ

กระทรวงสาธารณสุข จัด 3 โครงการใหญ่รักษาสุขภาพฟันคนไทย ตั้งเป้าใส่ฟันเทียมผู้สูงอายุ 30,000 ราย เคลือบหลุมร่องฟันกรามนักเรียนป.1และป.6 ซี่ที่ 1 และ 2 ฟรีจำนวน 1 ล้านซี่ เพื่อป้องกันฟันผุ ชี้ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2552 พบเด็กวัย 6-14 ปี จำนวน 1 ใน 3 กินขนมกรุบกรอบทุกวันสูงกว่าคนวัยอื่น 4 เท่าตัว และชอบดื่มน้ำหวานทุกวัน เสี่ยงทั้งฟันผุและโรคอ้วน เช้าวันนี้ ( 16 ธันวาคม 2552 ) ที่เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2552 และการประชุมวิชาการทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ว่า สุขภาพช่องปากนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงห่วงใยสุขภาพช่องปากของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้น้อมนำตามกระแสพระราชดำรัส ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชนทุกเพศทุกวัยมาโดยตลอด นายมานิตกล่าวว่า จากผลสำรวจสุขภาพช่องปากในระดับประเทศปี 2550 พบเด็กอายุ 3-5 ปี ร้อยละ 39 และเด็กอายุ 5 ปี พบร้อยละ 19 ฟันดีทั้งปาก ส่วนเด็กกลุ่มอายุ 12 ปีและ 15 ปี พบว่าได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 ในปี 2544 เป็นร้อยละ 13 ในปี 2550 แต่เด็กกลุ่มนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ โดยผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2552 พบเด็กวัย 6-14 ปี กินขนมกรุบกรอบทุกวัน ร้อยละ 37 หรือประมาณ 1 ใน 3 สูงกว่ากว่าค่าเฉลี่ยทุกวัยถึง 4 เท่าตัว และดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มทีมีรสหวานทุกวันร้อยละ 13 ซึ่งหากไม่มีการดูแลความสะอาดฟันให้ถูกต้อง ก็จะเสี่ยงทั้งฟันผุและโรคอ้วนตามมา สำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ พบปัญหาหลักคือสูญเสียฟันและเป็นโรคเหงือกอักเสบ โดยวัยทำงานร้อยละ 83 สูญเสียฟันเฉลี่ยคนละ 4 ซี่ เป็นโรคปริทันต์ค่อนข้างรุนแรงร้อยละ 38 ส่วนผู้สูงอายุ ร้อยละ 94 มีการสูญเสียฟันเฉลี่ยคนละ 13 ซี่ เป็นโรคเหงือกอักเสบค่อนข้างรุนแรงร้อยละ 84 และพบรากฟันผุร้อยละ 21 จะต้องเร่งรัดในเรื่องการควบคุมป้องกันโรคเหงือกอักเสบ โดยแปรงฟันให้สะอาด การใช้ไหมขัดฟัน เพื่อลดอัตราการสูญเสียฟัน นายมานิตกล่าวอีกว่า ในปี 2553 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจัด 3 โครงการใหญ่ เพื่อดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของประชาชนฟรี ประกอบด้วย 1. โครงการบริการเคลือบหลุมร่องฟันกรามซี่ที่ 1 ให้เด็กนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 และฟันกรามซี่ที่ 2 ในเด็กนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนทุกสังกัด มีเป้าหมาย 1,000,000 ซี่ เนื่องจากฟันกรามมักจะมีปัญหาผุมากกว่าซี่อื่นๆ จากการแปรงฟันที่ไม่ทั่วถึง 2.โครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีเป้าหมายใส่ฟันเทียมทั้งปาก ทดแทนฟันที่สูญเสียไปแก่ผู้สูงอายุทั่วประเทศ 30,000 ราย รวมทั้งหนุนการตั้งชมรมผู้สูงอายุ 1 อำเภอ 1 ชมรม เพื่อจัดกิจกรรมดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเองของสมาชิก โดยกรมอานมัยสนับสนุนยาสีฟันแปรงสีฟันสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้งจัดประกวด 10 ยอดผู้สูงอายุวัย 80 ปี ฟันดีในเดือนเมษายน 2553 และ 3.โครงการประกวดโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัวดีเด่นด้านทันตสุขภาพ ซึ่งทำเป็นปีแรก นายมานิตกล่าว *********************************** 16 ธันวาคม 2552