กระทรวงสาธารณสุข เปิดยุทธการ 4444 ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด ภาคเหนือสู้โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่ ตามยุทธศาสตร์ 2 ลด 3 เร่ง ในการลดอัตราป่วย อัตราตายของประชาชนจากไข้หวัดใหญ่ 2009 และเร่งในการรณรงค์ให้ความรู้สร้างพฤติกรรมที่ดีในการป้องกันโรคเนื่องจากในช่วงปีใหม่อากาศในภาคเหนือหนาวเย็นและประชาชนมีกิจกรรมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลมาก วันนี้ (17 ธันวาคม 2552) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย จ. เชียงราย นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้นางประนอม จันทรภักดี ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดรณรงค์ ใช้ยุทธการ 4444 ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด ภาคเหนือสู้โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เพื่อควบคุมป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่ในช่วง 4 เดือนฤดูหนาว โดยมีการเสวนาสู้หวัด 2009 จัดฐานการเรียนรู้เพื่อป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แก่อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) และนักศึกษาผู้ร่วมงานประมาณ 1,300 คน พร้อมกับการแสดงคอนเสิร์ตคนไทยรวมใจสู้หวัด 2009 นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้แพร่ระบาดไปทุกภูมิภาคของประเทศไทย และเนื่องจากสภาพอากาศเย็นลงและเป็นฤดูท่องเที่ยว มีชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ประชาชนทั่วไปยังคงมีความเสี่ยงในการติดโรค จึงต้องคงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มแข็ง ซึ่งที่จ.เชียงราย ตั้งแต่ 12 มิถุนายน – 15 ธันวาคม 2552 มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายทั้งคู่ อายุ 35 ปีเป็นโรคอ้วน และอายุ 25 ปีเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว นายแพทย์มานิตกล่าวต่อไปว่า ยุทธการ 4444 ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด สู้หวัดไข้หวัดใหญ่ 2009 มีวัตถุประสงค์สร้างพฤติกรรมที่ดี 4 ประการในการป้องกันโรคของประชาชน ใน4 กลุ่มเสี่ยง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้4 มาตรการ รับรู้ เร่งรัด ลดป่วย ลดตาย ใน 4 เดือนฤดูหนาวนี้ โดยพฤติกรรมที่ดี 4 ประการในการป้องกันโรคของประชาชน คือ 1.ปิด ปิดปากปิดจมูกอย่างถูกต้อง เวลาไอจามใช้กระดาษทิชชูปิดปากและจมูก หรือไอใส่แขนเสื้อตัวเอง และใส่หน้ากากอนามัยเมื่อป่วยเป็นหวัด 2.ล้าง ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ และทุกครั้งหลังสั่งน้ำมูก ไอจาม ก่อนรับประทานอาหาร หลังสัมผัสจุดหรือสิ่งของสาธารณะที่มีคนใช้ร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มกดลิฟท์ ก๊อกน้ำ โทรศัพท์ แป้นคอมพิวเตอร์ 3.เลี่ยง หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัด ไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่กำลังป่วยหรือผู้มีอาการไอจาม และ 4.หยุด ให้หยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม เมื่อป่วยเป็นไข้หวัด เพื่อให้ตนเองหายป่วยเร็วและไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น โดยให้ทุกจังหวัดเร่งรณรงค์ให้ประชาชนทุกพื้นที่เกิด 4 พฤติกรรมนี้โดยเน้นใน4 กลุ่ม คือ 1.เด็กนักเรียน 2.วัยทำงาน 3.ผู้มีโรคประจำตัวคนอ้วนหญิงตั้งครรภ์ 4.เด็กเล็กผู้สูงอายุที่มักอยู่กับบ้าน ใช้การประชาสัมพันธ์ผ่านทุกสื่ออย่างต่อเนื่อง และให้อสม.ช่วยกระจายข่าวสารในทุกชุมชน หากทุกคนปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงกัน มั่นใจว่าจะสามารถลดจำนวนคนป่วยได้เป็นจำนวนมาก ส่วนการให้วัคซีนซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการลดการป่วยของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูง ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 2.8 ล้านโด๊ส เพื่อฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงที่เมื่อป่วยจะมีอาการรุนแรงจนอาจเสียชีวิตได้ ได้แก่ หญิงมีครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 3 เดือนขึ้นไป บุคคลที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัม/เมตร2 ผู้พิการรุนแรงที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ และบุคคลอายุ 6 เดือน - 64 ปี ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจทุกประเภท หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในระหว่างได้รับเคมีบำบัด โรคเลือดธาลัสซีเมียที่มีอาการรุนแรง ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เบาหวาน ซึ่งจะเริ่มฉีดพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 11 มกราคม 2553 เป็นต้นไป จึงขอให้ประชาชนที่ทราบว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงดังกล่าว ไปติดต่อที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับทราบข้อมูลและรับบริการฉีดวัคซีนต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่พฤษภาคม - 13 ธันวาคม 2552 ไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกแรกรวม 190 ราย มีผู้ติดเชื้อระลอกแรกจากการศึกษาจากแบบจำลองแล้วประมาณ 8.4 ล้านราย ตั้งเป้าหมายในระลอกสองช่วงฤดูหนาว 4 เดือนนี้ จะลดลงผู้ติดเชื้อให้ลงครึ่งหนึ่งของระลอกแรกหรือไม่เกิน 4 ล้านราย ***************************** 17 ธันวาคม 2552


   
   


View 5       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ