กระทรวงสาธารณสุข ใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ เป็นเครื่องมือจัดการปัญหาสุขภาพ เน้นป้องกันโรคและภัยสุขภาพในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้า 1 จังหวัด 1พื้นที่ พร้อมตั้งสาธารณสุขอำเภอ เป็นผู้จัดการด้านเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคระดับอำเภอ โดยยึดหลัก รวมงาน รวมคน รวมเงิน ในปี 2553 เน้นหนักแก้ไข 9 เรื่อง อาทิ การควบคุมการบริโภคยาสูบ เหล้า เอดส์ วัณโรค
วันนี้(18 ธันวาคม 2552) ที่ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน จังหวัดชลบุรี นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดประชุมผู้บริหาร นักวิชาการ และสาธารณสุขอำเภอจากทั่วประเทศ กว่า 1,100 คน เพื่อมอบนโยบาย และพัฒนาความร่วมมือดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพระดับอำเภอ และรับฟังปัญหาอุปสรรคในการทำงาน
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกประเทศทั่วโลก ประสบกับปัญหาความท้าทายด้านสาธารณสุขที่มีโรคติดต่อใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาและมีการระบาดอย่างรวดเร็ว ล่าสุดคือไข้หวัดใหญ่ 2009 จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งรัดให้เกิดการทำงานที่รวดเร็วและเกิดการประสานความร่วมมือในหน่วยงานสาธารณสุขและภาคีสุขภาพทุกระดับตั้งแต่ส่วนกลาง และภูมิภาคอย่างเข้มแข็ง เพื่อรับมือกับภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นทันท่วงที ทั้งด้านโรคและภัยสุขภาพ ลดการสูญเสียจากการเจ็บป่วยและเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ในปี 2553 นี้ กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้สาธารณสุขอำเภอ ซึ่งมี 877 อำเภอ ให้เป็นผู้จัดการด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพระดับอำเภอ โดยยึดหลัก รวมงาน รวมคน รวมเงิน บริหารจัดการแบบมุ่งผลสำเร็จ ซึ่งจะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถสกัดปัญหาการแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ในด้านบริการสุขภาพแก่ประชาชน ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีเครือข่ายบริการทั่วประเทศ จำนวน 90,663 แห่ง ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 75 แห่ง โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป 94แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 724 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 877 แห่ง สถานีอนามัย 9,770 แห่งและศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชนอีก 80,000 แห่ง พร้อมที่จะให้การดูแลสุขภาพประชาชนอย่างเต็มกำลัง ล่าสุด ได้ยกระดับสถานีอนามัยทั่วประเทศ ให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ภายในปีงบประมาณ 2555 ให้ทำงานสร้างเสริมสุขภาพ ควบคุม ป้องกันโรคในพื้นที่อย่างเข้มข้น
ด้านนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในปี 2553 นี้ กรมควบคุมโรคได้นำแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ มาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนแก้ไขปัญหาสุขภาพในพื้นที่ ให้ชุมชนร่วมวางแผน และเป้าหมายการทำงานร่วมกัน ตั้งเป้าดำเนินการ 1 จังหวัด 1 พื้นที่ โดยจะเน้นหนักการทำงานใน 9 เรื่องสำคัญได้แก่ โครงการตามพระราชดำริ การเตรียมพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขอาทิโรคติดต่ออุบัติใหม่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง วัณโรค โรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ไข้เลือดออกและชิคุณกุนยา เอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การควบคุมการบริโภคยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้สาธารณสุขอำเภอ บูรณาการการทำงาน การป้องกันโรค ในลักษณะเป็นผู้ประสานงานกับภาคีเครือข่ายในอำเภอ เช่นการศึกษา องค์กรส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและชุมชน
************************************************ 18 ธันวาคม 2552
View 17
18/12/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ