สาธารณสุข พร้อมจัดส่งแพทย์จบใหม่ลงประจำ รพ.สต. 20 แห่งในปี 2553 รุกสร้างตลาดอาหารปลอดภัย 76 จังหวัด ผลักดันไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นครัวโลก ให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยวิจัยใบหนอนตายอยาก ฆ่าหนอนในปลาร้า ให้รพ.ศูนย์และรพ.ทั่วไปทุกจังหวัด เปิดศูนย์ซ่อมอุปกรณ์ช่วยคนพิการ และอสม. เป็นแกนหลักสร้างสุขภาพประชาชน ลดโรคเรื้อรัง
วันนี้ (25 ธันวาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานสาธารณสุขในปี 2553 แก่อธิบดี ผู้ตรวจราชการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ทั่วประเทศ
นายวิทยากล่าวว่า ในวันนี้ได้มอบนโยบายสำคัญในปี 2553 เพื่อเป็นกรอบการทำงานแก่ทุกจังหวัดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนไทย โดยจะปรับโฉมการทำงานจากการตั้งรับเป็นการรุกสร้างสุขภาพประชาชน ใน 6 เรื่องใหญ่ เรื่องแรกคือการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพิ่มอีก 1,000 แห่ง และครอบคลุมทุกแห่งในปี 2554 เพื่อให้คนในชนบทมีสุขภาพดีถวายในหลวง และได้พบแพทย์ผ่านจอคอมพิวเตอร์ 2.ระดมพลังอสม. 987,019 คน ออกค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ออกเยี่ยมบ้านดูแลผู้ป่วยเพื่อลดโรคแทรกซ้อน และให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพทุกกลุ่มวัย ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า อสม.ถือเป็นผู้สื่อสารที่ได้ผลดีที่สุด
3.ให้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อมรับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอก 2 เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ให้ความมั่นใจประชาชน โดยให้การรักษาผู้ป่วยอย่างรวดเร็วเพื่อลดการเสียชีวิตให้น้อยที่สุด โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงในวันที่ 11 มกราคม 2553 4.พัฒนาตลาดอาหารปลอดภัย ปลอดสารพิษปนเปื้อนครบ 76 จังหวัด เพื่อให้เป็นครัวของโลก คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้กินอาหารปลอดภัย และลดโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่ปลอดภัย 5.ดูแลสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ พัฒนาสุขภาพเด็ก แนะนำการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และส่งเสริมสุขภาพประชาชนทุกกลุ่มให้เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ด้วยภูมิปัญญาไทย และการแพทย์ทางเลือกต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ เพื่อลดการเจ็บป่วย ลดภาระค่ายา แบ่งเบาภาระแพทย์และพยาบาล และ6.เตรียมการรองรับการดำเนินการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมต่อสุขภาพ และการแก้ปัญหาสุขภาพประชาชนในพื้นที่เฉพาะที่มีปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อม
ด้านนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้มอบให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ประสานการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและตำรวจ ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ. 2551 โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวและเทศกาลปีใหม่นี้ ให้คุมเข้มลานเบียร์และการจัดเลี้ยงในสถานที่ราชการซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามไม่ให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมอบให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ รวบรวมข้อมูลการแพทย์พื้นบ้าน ภูมิปัญญาไทย นำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการวิจัยสมุนไพร ซึ่งมีข้อมูลว่าชาวบานแถบอีสานใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยนำใบหนอนตายอยาก มาใส่ในปลาร้า เพื่อฆ่าหนอนและใช้ได้ผลมาถึงทุกวันนี้ ได้มอบให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยนำมาศึกษาวิจัยใน
ห้องปฏิบัติการ หากได้ผลและมีความปลอดภัย จะสนับสนุนให้นำไปใช้ทั่วประเทศ ลดปัญหาปลาร้าปนเปื้อนยาฆ่าแมลง และมอบให้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป เปิดแผนกซ่อมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ อำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการในพื้นที่ รวมทั้งให้ทุกจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ สนับสนุนโครงการมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ (Miracle of Life) ซึ่งเป็นโครงการในพระดำริของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ออกบริการตรวจสุขภาพ รักษาประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้พิการ
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปี 2553 จะมีแพทย์จบใหม่มาอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข 1,300 คน ได้วางแผนส่งแพทย์จบใหม่ไปประจำการที่รพ.สต.ประมาณ 20 แห่งทั่วประเทศ โดยมอบนโยบายให้ผู้ตรวจราชการ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คัดเลือก รพ.สต. ที่มีความพร้อม และจัดบ้านพัก ยานพาหนะ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รองรับแพทย์จบใหม่ ซึ่งหลังวันที่ 28 ธันวาคม 2552 หากผลการสอบสวนทุจริตโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเสร็จสิ้น ก็จะปลดล็อค เริ่มเดินหน้าโครงการอย่างเป็นรูปธรรม ประชาชนจะสามารถสัมผัสนโยบายได้จริง และในปี 2554 จะมีแพทย์จบเพิ่มอีก 1,700 คน ในปี 2555 จำนวน 2,000 คน ก็จะขยายรพ.สต.ที่มีแพทย์ประจำเพิ่มขึ้นอีก
สำหรับการแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ในปี 2553 กระทรวงสาธารณสุขได้ผลักดันให้เป็นปัญหาระดับชาติ ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โดยใช้งบประมาณ 154 ล้านบาท ให้ทุกจังหวัด เร่งแก้ไข ถวายเป็นพระราชกุศลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา ปี 2552 2554 โดยให้ทุกจังหวัดจัดโครงการควบคุมป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพประชาชน เพื่อป้องกันโรคเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง
******************************** 25 ธันวาคม 2552
View 12
25/12/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ