กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดโครงการตรวจยีน NAT2 เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ คิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ 28 ก.ค. 67 นี้ ตั้งเป้าตรวจผู้ป่วยรายใหม่ให้ได้ 1 หมื่นราย  
 

วันนี้ (24 กรกฎาคม 2567) ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการตรวจวิเคราะห์แนททู ไดโพลทัยป์ (NAT2 diplotype) ด้วยเทคนิคเรียลไทม์พีซีอาร์ (Real-time PCR) เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค Isoniazid (ไอโซไนอะซิด) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วยผู้บริหาร วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัย บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เข้าร่วมงาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วัณโรคเป็นโรคติดเชื้อที่เป็นปัญหาทางสาธารณสุขของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศไทย เป็น 1 ใน 30 ประเทศที่มีภาระวัณโรคสูง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่และกลับมาเป็นซ้ำกว่า 80,000 คนต่อปี และเสียชีวิตประมาณ 7,800 รายต่อปี การรักษาวัณโรคจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยได้รับยาต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งผลข้างเคียงของยาต้านวัณโรคทำให้มีอาการตับอักเสบ ผู้ป่วยบางรายจึงต้องหยุดยา การรักษาจึงไม่มีประสิทธิภาพ กระทรวงสาธารณสุข จึงนำเทคโนโลยีนวัตกรรมการตรวจ NAT2 diplotype (แนททู ไดโพลทัยป์) มาใช้ มีเป้าหมายเพื่อตรวจหายีนย่อยยาวัณโรคในผู้ป่วย ให้แพทย์ผู้รักษามีข้อมูลไว้ใช้ปรับยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ลดการเกิดตับอักเสบจากยาต้านวัณโรคทำให้รับยาได้อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมายในการยุติวัณโรค 

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้จัดทำโครงการตรวจวิเคราะห์ NAT2 diplotype ด้วยเทคนิค Real-time PCR เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค Isoniazid ในผู้ป่วยวัณโรค จำนวน 10,000 ราย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยใช้การแพทย์จีโนมิกส์หรือการแพทย์แม่นยำเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคตามยุทธศาสตร์ที่ 2 ของแผนปฏิบัติการระดับชาติด้านการต่อต้านวัณโรค ในการยกระดับการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคและผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาตามมาตรฐานสากล

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยวัณโรคประมาณร้อยละ 5-10 มีภาวะตับอักเสบจากยาต้านวัณโรค ซึ่งทำให้การรักษาวัณโรคเป็นไปอย่างยากลำบาก ยีน NAT2 มีหน้าที่ในการย่อยสลายยาต้านวัณโรค Isoniazid ทำให้แต่ละบุคคลมีความสามารถในการย่อยสลายยาแตกต่างกัน ซึ่งหากมียีน NAT2 เป็นแบบย่อยสลายยาช้า จะทำให้มีโอกาสเกิดตับอักเสบสูงกว่าแบบอื่นถึง 8.8 เท่า และประชากรไทยร้อยละ 40 มีการย่อยสลายยาช้า ดังนั้นการตรวจยีน NAT2 จะช่วยให้แพทย์ผู้รักษาสามารถตัดสินใจในการปรับระดับยา Isoniazid ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยวัณโรค 

“กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอประชาสัมพันธ์โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ดังกล่าว ด้วยการประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้านจีโนมิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา รักษา ควบคุม และป้องกันวัณโรค ของประเทศไทย เร่งรัดให้ยุติวัณโรคในทุกเขตสุขภาพ และทำให้โรคนี้หมดไปจากประเทศไทย โดยหน่วยบริการสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถส่งตัวอย่างเลือดผู้ป่วยวัณโรค ตรวจ NAT2 diplotype โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่ง ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2568  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 029510000 ต่อ 98095 หรือ 98096” นายแพทย์ยงยศ กล่าวทิ้งท้าย


 

24 กรกฎาคม 2567
 



   
   


View 523    24/07/2567   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์