สธ. เร่งปรับราคาสิ่งก่อสร้าง งบไทยเข้มแข็งให้เหมาะสม ยึดหลักประหยัด ให้เสร็จในศุกร์นี้

กระทรวงสาธารณสุข ตั้งคณะทำงานทบทวนและปรับราคาสิ่งก่อสร้างให้เหมาะสม ยึดประโยชน์ของประเทศ ให้เสร็จสิ้นในวันศุกร์นี้ ก่อนส่งคณะกรรมการกลั่นกรองชุดใหญ่ ที่ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน เพื่อเดินหน้าปลดล็อคงบพรก.ไทยเข็มแข็งกระทรวงสาธารณสุขต่อไป วันนี้ (12 มกราคม 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินการโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ในวันนี้ได้ประชุมคณะกรรมการทบทวนความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนงบพระราชกำหนด (พรก.) ที่ได้รับวงเงินแล้ว 11,500 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ลงตัวในส่วนของราคาสิ่งก่อสร้าง วงเงิน 6-7 พันล้านบาท โดยที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงาน 1 ชุดเพื่อเร่งพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ประกอบด้วยนพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ นพ.ประทีป เมฆประสาน นพ.วีระพงษ์ เพ่งวาณิชย์ ผู้แทนจากกรมการแพทย์ สถาบันพระบรมราชชนก สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กองแบบแผน และสำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค ร่วมพิจารณาปรับลดราคาให้เหมาะสม คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศ ให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์นี้ ในหลักการพิจารณา ให้ใช้ราคากลางของกองแบบแผน ซึ่งเป็นราคามาตรฐานเป็นตัวตั้ง แล้วปรับลดราคาลงให้เหมาะสม รายการใดที่ปรับลดแล้วราคาต่อตารางเมตรยังสูงอยู่ ให้ปรับลงอีกโดยใช้ราคาอื่นๆมาร่วมพิจารณาตัดสินใจ เพื่อแสดงให้เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการบริหารเพื่อประหยัดงบประมาณ และให้นำเสนอผลในที่ประชุมคณะกรรมการทบทวนโครงการฯ นัดต่อไปในวันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2553 คาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องสิ่งก่อสร้างทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาคารบ้านพักแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ อาคารผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน อาคารสนับสนุน และสิ่งก่อสร้างประกอบอื่น ๆ ส่วนใหญ่มีราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า สำหรับรายการของครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จะปลดล็อคเพิ่มเติมมีอีก 13 รายการ วงเงินรวมทั้งหมด 39 ล้านบาท ได้แก่ ครุภัณฑ์การแพทย์ของกรมการแพทย์ 7 รายการ วงเงิน 29.27 ล้านบาท ประกอบด้วย ชุดครุภัณฑ์จัดท่าเด็กพิการ ชุดประเมินและบริหารร่างกายพร้อมอุปกรณ์ ตู้อุ่นน้ำเกลือและผ้าห่ม เครื่องขูดเบ้าขาเทียม เครื่องขูดหินน้ำลาย เครื่องฆ่าเชื้อด้วยแรงดันไอน้ำ เครื่องตรวจหาเซลล์มะเร็งด้วยสารกัมมันตรังสีภาคตัดขวาง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ ใช้ในโรงพยาบาลชุมชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 6 เครื่อง เครื่องละ 1.62 ล้านบาท วงเงิน 9.72 ล้านบาท และเมื่อรวมกับรายการเดิมที่ผ่านการพิจารณาปลดล็อคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่รถพยาบาล รถยนต์บรรทุก และรถยนต์โดยสารขนาด 12 ที่นั่ง และงบบริหารจัดการ วงเงิน 1,757.599 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 1,796.589 ล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะนำผลการทบทวนรายการโครงการไทยเข้มแข็งในส่วนงบพรก. เสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานในสัปดาห์หน้า ซึ่งงบส่วนนี้ไม่มีรายการใดที่เป็นปัญหาตามผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดนพ.บรรลุ ศิริพานิช ส่วนรายการในงบตามพรบ.อีก 7 หมื่นกว่าล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ได้รับการจัดสรรเงิน ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภา กระทรวงฯจะเร่งทบทวนความเหมาะสมต่อไป ***************************** 12 มกราคม 2553