พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ ทรงห่วงใยอันตรายทารกคลอดก่อนกำหนด ซึ่งพบปีละ 60,000 - 80,000 คนต่อปี นอนไอซียูปีละกว่า 11,000 คน เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กไทยแรกเกิดสูงเป็นอันดับ 1 เร่งบูรณาการหน่วยงานร่วมแก้ไขปัญหา และพัฒนา อสม. เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังปัญหาในชุมชน วันนี้ (29 มกราคม 2553) เวลา 11.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จถึงโรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา ทรงเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และแกนนำอสม.จากจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง และสงขลา จำนวน 200 คน ซึ่งเป็นเครือข่ายนำร่องโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก เพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทยในพระอุปถัมภ์ฯ ของภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาการคลอดก่อนกำหนด และทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายห้องคลอด และหออภิบาลทารกแรกเกิด ทรงเยี่ยมและประทานถุงพระราชทานเยี่ยมแม่หลังคลอดและทารกแรกเกิด รวม 43 ราย โดยมีนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายเมธี ณ นคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ข้าราชการ และประชาชน เฝ้ารับเสด็จ นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กราบทูลรายงานว่า การคลอดก่อนกำหนด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทารกแรกเกิดของไทยเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 หรือมีพัฒนาการล่าช้า และอาจเกิดปัญหาระดับเชาว์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ จากสถิติไทยมีหญิงตั้งครรภ์คลอดก่อนกำหนดคือเมื่ออายุครรภ์ 28-37 สัปดาห์ 64,000-80,000 คน ในจำนวนนี้มีเด็กคลอดก่อนกำหนดอาการหนักต้องอยู่ในไอซียูกว่า 11,000 คน เนื่องจากอวัยวะภายในยังทำงานไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะปอด ตับ และระบบภูมิต้านทานโรค ทำให้ติดเชื้อง่าย การควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ดี และมีปัญหาการดูดนม ต้องได้รับการดูแลจากบุคลากรการแพทย์ที่มีความชำนาญ ใช้เครื่องมือแพทย์ราคาแพง ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเฉลี่ยรายละ 2-3 เดือน ใช้งบประมาณดูแลปีละไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ในการแก้ไขปัญหาการคลอดก่อนกำหนด ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จัดทำโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวและเยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ เริ่มตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา โดยบูรณาการส่วนราชการ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สมาคมวิชาชีพแพทย์พยาบาล และสถานพยาบาลทุกระดับในพื้นที่ พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ และสถานพยาบาลทุกแห่ง มีศักยภาพในการดูแลมารดาและทารกคลอดก่อนกำหนดให้ได้มาตรฐานสากล ทั้งจัดทำมาตรฐานการพยาบาล ให้หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์เร็วขึ้น ตั้งแต่ก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ และฝากครรภ์คุณภาพครบ 4 ครั้งให้ได้ 100 เปอร์เซนต์ พัฒนาระบบส่งต่อ และจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อดูแลแนะนำสตรีตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยงในชุมชน รวมทั้งเฝ้าระวังและส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาล ตั้งเป้าหมายในปี 2553 จะลดจำนวนทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัมให้ไม่เกินร้อยละ 7 ทั้งนี้ กลุ่มที่มีภาวะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ที่อายุน้อยกว่า 17 ปีหรือมากกว่า 35 ปี มีการอักเสบในทางเดินปัสสาวะ การอักเสบในช่องปากและฟันที่ไม่ได้รับการรักษา มีประวัติดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ใช้สารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์แฝด มีปัญหารกเกาะต่ำ มีความผิดปกติของมดลูก เช่น มีเนื้องอกที่มดลูกหรือปากมดลูกผิดปกติ รวมทั้งเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์ ********************* 29 มกราคม 2553


   
   


View 10    29/01/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ