วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวภายหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขว่า ในวันนี้ได้รับทราบความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่าตั้งแต่วันที่ 11 – 29 มกราคม 2553 มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว 116,000 ราย ส่วนกรณีที่มีข่าวที่เกี่ยวข้องกับหญิงตั้งครรภ์ 3 รายนั้น ขณะนี้กำลังรอผลพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญ ในรายที่โรงพยาบาลวชิระพยาบาล คาดว่าวันพรุ่งนี้จะได้ข้อสรุปว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่จังหวัดสตูล 2 รายนั้น ภายในสัปดาห์นี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ได้เน้นย้ำไปอีกครั้ง เพื่อให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดกรณีการฉีดวัคซีนว่านอกจากการรณรงค์ให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้ง 5 กลุ่ม เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยสมัครใจแล้ว ขอให้เน้นย้ำในเรื่องของการรักษามาตรฐานตามที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัดในการให้บริการ เช่น กรณีก่อนฉีดวัคซีนต้องมีการตรวจสุขภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เมื่อฉีดเสร็จแล้วก็จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์โดยใกล้ชิดอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และเพิ่มเติมอีกคือ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ต้องให้ความรู้ ความเข้าใจ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้ครบถ้วน ชัดเจน เพื่อประกอบการตัดสินใจ บุคลากรทางการแพทย์ควรจะเป็นกลุ่มแรกที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มเสี่ยงทั้ง 5 กลุ่ม นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า กรณีหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนที่จังหวัดสตูล ระหว่างการรอผลพิสูจน์ ในการเยียวยาเบื้องต้นได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่เป็นข่าวในวันแรก ได้สั่งการให้โรงพยาบาลสตูลที่รับดูแลผู้ป่วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูลให้เข้าไปเยี่ยมดูแลผู้ป่วยและครอบครัว ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้การดูแลเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ได้มอบหมายตั้งแต่เบื้องต้นให้ดูแลเป็นพิเศษ ได้สั่งการไปชัดเจนว่า 1.เรื่องของการรักษาพยาบาลผู้ป่วย โรงพยาบาลจะรับเป็นภาระดูแลทั้งหมด โดยไม่คิดเงิน 2. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับค่าเดินทาง รวมทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับสามีที่ต้องเสียค่าเดินทางและขาดรายได้เนื่องจากมาเฝ้าภรรยา กระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปช่วยเหลือดูแลชดเชยให้ ซึ่งเป็นแนวทางที่มอบไปชัดเจนแล้ว ขอให้สบายใจได้ว่ากระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญและให้ความสนใจ ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องการเยียวยาตามสิทธิของสปสช. จะรับไว้พิจารณาหากเข้าข่ายการชดเชย จะมีสิทธิได้ตามมาตรา 41 กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการตามขั้นตอนให้ต่อไป ซึ่งกองทุนนี้ ตามเจตนารมณ์จะช่วยดูแลผู้ที่อาจจะได้รับความเสียหายจากบริการ ซึ่งนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็ชัดเจนแล้วว่า ขณะนี้ 1. ค่ารักษาพยาบาลก็ช่วยเหลือแล้ว 2. เงินอื่นๆมอบนโนบายว่าขอให้ทางกระทรวงสาธารณสุขช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนตามมาตรา 41 และสั่งการตั้งแต่วันแรกให้สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลสตูลไปดูแลเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากมีฐานะยากจน ***************************************** 1 กุมภาพันธ์ 2553


   
   


View 12    01/02/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ