กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ป่วยโรคเบาหวานกินองุ่นอย่างระมัดระวัง เนื่องจากองุ่นมีน้ำตาลธรรมชาติสูง การกินในปริมาณมากอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ จึงแนะนำให้กินองุ่นไม่เกิน 15-20 ผลต่อครั้ง หรือประมาณครึ่งถ้วยตวง เพื่อให้ได้รับปริมาณคาร์โบไฮเดรตเหมาะสม และลดผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด

          แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า องุ่นถือเป็นแหล่งวิตามินซี วิตามินเค และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เรสเวอราทรอล (Resveratrol) ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและส่งเสริมสุขภาพหัวใจในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเบาหวานควรระมัดระวังการกินองุ่นเพราะมีน้ำตาลธรรมชาติสูง แนะนำควรกินร่วมกับอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผักใบเขียวหรือถั่ว เพื่อชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด กรมอนามัยยังแนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานเลือกรับประทานผลไม้ตามฤดูกาลที่หลากหลาย เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ควรปรึกษาแพทย์ หรือนักโภชนาการเพื่อวางแผนการกินอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพแต่ละบุคคล จะช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ ผู้ป่วยเบาหวานควรติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ และปรับปริมาณการกินผลไม้ให้เหมาะสมตามสภาวะสุขภาพ โดยแนะนำให้เลือกผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง แก้วมังกร เพื่อช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งควรเพิ่มการบริโภคผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า และบรอกโคลี ซึ่งอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการรักษาสุขภาพจิตให้แจ่มใส เลือกทำกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม เช่น การเดินเร็ว โยคะ หรือการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินและเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย

***

  กรมอนามัย / 27  ตุลาคม 2567



   
   


View 346    27/10/2567   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมอนามัย