นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมให้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาวัคซีนใช้ในประเทศไทย เพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวิจัยจนถึงกระบวนการผลิต และใช้ในการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งที่ผ่านมาวัคซีนที่ใช้ส่วนมากเป็นวัคซีนที่พัฒนาในต่างประเทศ จึงได้ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวัคซีนแห่งชาติ จำนวน 4 คณะ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 เป็นต้นไป โดยยกเลิกคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขเดิม ที่ 846/2552 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 นายจุรินทร์กล่าวว่า คณะที่ 1 ได้แก่คณะอนุกรรมการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาวัคซีน จำนวน 27 คน มีนายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ เป็นประธานอนุกรรมการ มีหน้าที่อาทิ กำหนดความสำคัญของวัคซีนที่ต้องการวิจัยพัฒนาสำหรับประเทศ เสนอแนวทางการศึกษาวิจัย กำหนดแนวทางการจัดสรรทรัพยากรของประเทศเพื่อสนับสนุนการศึกษาวิจัย ติดตามประเมินผลการดำเนินงานของโครงการพัฒนาวัคซีน เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงาน คณะที่ 2 คณะอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตวัคซีนในประเทศ จำนวน 24 คน มีนพ.พรชัย มาตังคสมบัติ เป็นประธานอนุกรรมการ มีหน้าที่อาทิ ประเมินสถานการณ์ ปัญหาอุปสรรค ศักยภาพ และโอกาสในการผลิตวัคซีนในประเทศ กำหนดความสำคัญชนิดวัคซีนที่ควรผลิตในประเทศทั้งในระยะสั้นและระยะยาว กำหนดแนวทางและขั้นตอนการดำเนินงานที่เหมาะสมในการลงทุนผลิตวัคซีนในประเทศ ทั้งที่คิดค้นพัฒนาขึ้นเอง และถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ติดตามประเมินผลการพัฒนาผลิตวัคซีนในประเทศ และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน คณะที่ 3 คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการประกันและควบคุมคุณภาพวัคซีน จำนวน 27 คน มีเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เป็นประธานอนุกรรมการ มีหน้าที่อาทิ กำหนดแนวทางการพัฒนาระบบการประกันและควบคุมคุณภาพวัคซีนให้ชัดเจน ทันสมัย และเป็นไปตามมาตรฐานสากล กำหนดแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานประกันและควบคุมคุณภาพวัคซีนของประเทศ การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการพัฒนาระบบการประกันและควบคุมคุณภาพวัคซีนของประเทศ และคณะที่ 4 คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จำนวน 27 คน มีอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานอนุกรรมการ มีหน้าที่ให้คำปรึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวัคซีนและการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค แก่คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ กำหนดการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและการป้องกันโรคที่เหมาะสม รวมทั้งวิธีบริหารวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับประโยชน์สูงสุด กำหนดแนวทางในการศึกษาวิจัยด้านวัคซีนและระบาดวิทยาของโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน แนวทางในการจัดสรรทรัพยากร เพื่อสนับสนุนการวิจัยดังกล่าว เสนอทางเลือกด้านนโยบายในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่กรรมการวัคซีนแห่งชาติ นายจุรินทร์ กล่าว **************************************** 5 พฤษภาคม 2553


   
   


View 14    05/05/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ