เช้าวันนี้ (11 พฤษภาคม 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการ แถลงข่าวว่า ตามนโยบายที่กระทรวงสาธารณสุขมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้มข้นการดำเนินการเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เรื่องยา เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ และพบการกระทำผิดกฎหมายหลายกรณี ในครั้งนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแสจากประชาชน เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอินทราว่า มีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ทางสถานีวิทยุชุมชนในเขตจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดอื่นๆ จึงประสานงานไปยังกองบังคับการตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจค้นบริษัทที่นำเข้าชื่อ บริษัทไลฟ์สไตล์ แปซิฟิค ริม (ประเทศไทย) จำกัด อยู่ที่เลขที่ 170/2 อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 1 ชั้น 1-2 ซ.สุขุมวิท 16 ถ.รัชดาภิเษกตัดใหม่ คลองเตย กรุงเทพฯ
ผลการตรวจสอบพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำผลไม้อินทรา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนูเทรีย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฟเบอร์ไลท์ จำนวนหลายพันขวด ซึ่งนำเข้าจากประเทศแคนาดา เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายย่อย และพบแผ่นซีดีโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณรักษาโรคร้ายต่างๆได้ ทั้งมะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเก๊าท์ จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้ง 3 ชนิดพบว่า มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ในเบื้องต้นได้ยึดอายัดไว้ทั้งสิ้น 1,392 ขวด และยึดซีดี จำนวน 10 แผ่น รวมทั้งยึดตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์หาสารอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สเตียรอยด์ โลหะหนัก รวมทั้งเชื้อโรคอาหารเป็นพิษ รวมมูลค่าของที่ยึดไว้ประมาณ 2.2 ล้านบาท ขณะเดียวกันได้ดำเนินคดี 3 ข้อหากับผู้ประกอบการ คือ
ข้อหาที่ 1 โฆษณาสรรพคุณอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และหากตรวจพบว่าการโฆษณาสรรพคุณอาหารโอ้อวดเกินจริงหรือหลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาที่ 2 คือการนำเข้าอาหารเพื่อจำหน่ายที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และข้อหาที่ 3 ถ้าผลการตรวจวิเคราะห์ตรวจพบสารสเตียรอยด์ และเชื้อโรคอาหารเป็นพิษ จะจัดเป็นอาหารที่ไม่บริสุทธิ์ตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมี่ยม สารหนู จะจัดเป็นอาหารผิดมาตรฐานมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
นอกจากนี้ ได้ตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนในเขตจังหวัดนนทบุรี FM. 94.3MHz.และFM. 100.25MHz. เลขที่ 92/4 ซ.ท่าอิฐ ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งพบว่าจัดตั้งเป็นศูนย์ข้อมูลน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ ผลการตรวจสอบพบ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำผลไม้อินทรา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนูเทรีย และเอกสารโฆษณาผลิตภัณฑ์เพื่อเผยแพร่ไปยังผู้บริโภค ซึ่งมีการโฆษณาในลักษณะอวดอ้างสรรพคุณรักษาโรคร้ายดังที่ได้กล่าวมา โดยจะดำเนินคดีเช่นเดียวกันกับผู้โฆษณาคือนักจัดรายการหรือวิทยุชุมชนซึ่งกำลังดำเนินการ ในข้อหาอย่างน้อย 2 ข้อหา คือโฆษณาสรรพคุณอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาจเข้าข่ายหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควรด้วย
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สิ่งที่ขอฝากเตือน ประการที่ 1 คือขอเตือนนักจัดรายการหรือวิทยุชุมชนทั้งหลายอย่าได้ดำเนินการสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะทางอย.จะดำเนินคดี บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่างเช่นกรณีดังกล่าว เป็นอาหารแต่อวดอ้างสรรพคุณเป็นยารักษาโรค ประการที่ 2 ขอเตือนผู้บริโภคว่าอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีเป็นจำนวนมากในขณะนี้ และอย.กำลังเร่งรัดตรวจสอบ จับกุมดำเนินคดีอยู่ ที่มักอวดอ้างสรรพคุณเป็นยารักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งไม่เป็นความจริง ประการที่ 3 ขอให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป หากพบอาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ ที่สงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย โปรดแจ้งสายด่วน อย. หมายเลข 1556 หรือส่งจดหมายไปที่ตู้ปณ. 52 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือเดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเองพร้อมตัวอย่างผลิตภัณฑ์มาที่ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ได้ทุกวันในเวลาราชการ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
ด้านนายแพทย์นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้ตรวจยึดดำเนินคดีในครั้งนี้ มีการนำเข้ามาตั้งแต่ปี 2552 โดยทาง อย.ได้ติดตามเฝ้าระวังมาโดยตลอด พบการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงและมีการร้องเรียนจากประชาชน อย.จึงได้เข้าตรวจสอบเรื่องการโฆษณา ส่วนผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ และโลหะหนักประมาณ 2 สัปดาห์ สำหรับวิทยุชุมชนที่มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวซึ่งอยุ่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ได้มอบให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีดำเนินการระงับการโฆษณาทันที และติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องต่อไป
*********************************** 11 พฤษภาคม 2553