สาธารณสุข เผยผลการตรวจสุขภาพคนไทย อายุ 15 ปี ขึ้นไป อยู่ในขั้นน่าห่วง พบมีปัญหาความดันโลหิตสูงถึง 11ล้านคน หรือพบ 1 คนในเกือบทุกๆ 5 คน สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากความอ้วน โรคความดันโลหิตสูงถือได้ว่าเป็นมหันตภัยเงียบเนื่องจากช่วงแรกไม่แสดงอาการ ผู้เป็นโรคจึงไม่ทราบว่าเป็นเพราะยังรู้สึกปกติ ทำให้ไม่ได้รักษา เสี่ยงพิการและเสียชีวิตจากเส้นเลือดสมองแตก หัวใจขาดเลือด ไตวาย แนะการป้องกันไม่ให้เกิดโรคง่าย ๆ คือ ลดเค็ม เพิ่มกินผัก ออกกำลังกาย และคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินพิกัด
วันนี้ (24 พฤษภาคม 2553)ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วยนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดงานรณรงค์ “วันความดันโลหิตสูง” ประจำปี 2553 เพื่อให้บุคลากรสาธารณสุข ประชาชนทั่วไป รวมทั้งกลุ่มเสี่ยง ตระหนักถึงภัยอันตรายของโรคความดันโลหิตสูง โดยสมาคมความดันโลหิตสูงโลก กำหนดประเด็นรณรงค์วันความดันโลหิตสูงประจำปีนี้ว่า “Healthy Weight Healthy Blood Pressure” สำหรับประเทศไทย ใช้ “น้ำหนักเหมาะ ความดันดี ชีวีมีสุข” เน้นประชาชนลดกินอาหารรสเค็ม เพิ่มกินผัก ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกาย เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง
ดร.พรรณสิริกล่าวว่า ขณะนี้โรคความดันโลหิตสูงกำลังเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก เมื่อป่วยแล้วรักษาไม่หายขาด ล่าสุดสมาคมความดันโลหิตสูงโลก รายงานประชากรทั่วโลกป่วยเป็นโรคนี้กว่า 1,500 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดประมาณ 6,000 ล้านคน เสียชีวิตปีละ 7 ล้านคน สำหรับไทย ผลสำรวจสภาวะสุขภาพประชากรไทยล่าสุดในปี 2547 อยู่ในเกณฑ์น่าห่วง พบว่าประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปซึ่งมีประมาณ 50 ล้านคน พบผู้ป่วยประมาณ 11 ล้านคน กล่าวได้ว่าในเกือบทุกๆ 5 คน จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง 1 คน โดยพบในผู้ชายร้อยละ 23 ผู้หญิงร้อยละ 21 พบผู้ป่วยมากที่สุดในภาคเหนือ รองลงมาภาคกลาง กทม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ โดยในรอบ 10 ปีมานี้ตั้งแต่พ.ศ.2541-2551 มีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 5 เท่าตัว
ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า สาเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เกิดมาจากหลายปัจจัยเสี่ยงร่วมกันที่สำคัญ คือ การมีน้ำหนักตัวเกินหรือเป็นโรคอ้วน กินเค็ม ขาดการออกกำลังกาย ผลสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อในประชากรอายุ 15-74 ปี โดยกรมควบคุมโรคในปี 2550 พบว่ามีน้ำหนักเกินและอ้วนร้อยละ 23 มีรอบเอวเกินร้อยละ 21 กินผักและผลไม้เพียงพอคือ 5 หน่วยมาตรฐานขึ้นไปต่อวัน ร้อยละ 23 ออกกำลังกาย 30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ร้อยละ 38 ดื่มสุราร้อยละ 36 สูบบุหรี่ร้อยละ 22 โดยคนในกทม.มีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน อ้วนและรอบเอวเกินสูงที่สุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบปัญหาเรื่องการสูบบุหรี่หรือยาสูบสูงสุด ส่วนภาคเหนือพบปัญหาเรื่องการดื่มสุราสูงสุด
ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพ และป้องกันไม่ให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยยึดหลัก ลดกินอาหารรสเค็ม ชิมอาหารก่อนปรุง ไม่หวานไม่เค็มไม่มัน เพิ่มการรับประทานผักโดยรับประทานหลากสีและชนิดลดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมตามวัย ควบคุมรอบเอวในผู้ชายไม่ให้เกิน 90เซนติเมตร ผู้หญิงไม่เกิน 80เซนติเมตรและออกกำลังกายอย่างน้อย 30นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 5วัน และควรตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำทุกปี
ด้านนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าเรื่องที่น่าเป็นห่วง คือโรคความดันโลหิตสูงช่วงแรกไม่แสดงอาการ ผู้เป็นโรคยังรู้สึกปกติดี จึงไม่ได้ดูแลรักษา ซึ่งโรคความดันโลหิตสูงนี้ หากไม่ได้รักษาหรือควบคุมความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจะเกิดปัญหากับอวัยวะสำคัญตามมาอีกหลายโรคในคนคนเดียว เช่นโรคหัวใจขาดเลือด โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้
นายแพทย์มานิตกล่าวต่อว่า ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ขอให้ไปรักษาและต้องพบแพทย์อย่างต่อเนื่องตามนัด และต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะโรคนี้รักษาไม่หายขาดต้องดูแลเรื่องการกิน การออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก ประกอบกับการกินยาเพื่อควบคุมอาการให้ดีขึ้น มีคนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า เมื่อกินยาสักระยะหนึ่งแล้วความดันโลหิตเป็นปกติแล้วก็จะเลิกกินยาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะหากกินยาไม่เป็นไปตามแพทย์สั่ง จะทำให้หัวใจทำงานหนัก อาการโรคกำเริบรุนแรง เป็นโรคหัวใจโต หรือเส้นเลือดในสมองแตก หากไม่เสียชีวิต ก็จะพิการเป็นอัมพาตได้
สำหรับกิจกรรมเนื่องในวันโรคความดันโลหิตสูงในวันนี้ประกอบด้วย นิทรรศการความรู้เรื่องโรคความดันโลหิตสูง การป้องกัน ควบคุมโรค บริการตรวจคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด การบริการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย สุขภาพจิต การหยุดสูบบุหรี่และการลดการดื่มสุรา เสวนาวิชาการ และการแสดงของศิลปินดารา
*************************************** 24 พฤษภาคม 2553