บ่ายวันนี้(30 พฤษภาคม 2553)ที่ศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการกิจกรรมพิเศษและสื่อสร้างกระแสสังคม เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2553 หญิงไทยกำหลังตกเป็นเหยื่อ(Women : Tobacco Industry’s Victims) ว่า ปัจจุบันปัญหาสำคัญของผู้ที่สูบบุหรี่ คือ ผู้หญิงมีแนวโน้มสูบบุหรี่รวมมากขึ้น โดยขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดบุหรี่มากกว่า 1,000 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงประมาณ 200 ล้านคน สำหรับประเทศไทยมีแนวโน้มใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ล่าสุดพบหญิงไทยสูบบุหรี่ 840,000 คน และมีแนวโน้มสูบบุหรี่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น


 

         


 

สำหรับการรณรงค์งดสูบบุหรี่ในปี 2553 นี้ องค์การอนามัยโลกกำหนดประเด็นการณรงค์ คือ Gender and tobacco with an emphasis on marketing to women หรือหญิงไทยฉลาดไม่เป็นทาสตลาดบุหรี่ เพื่อลดการสูบบุหรี่ในผู้หญิงโดยเฉพาะวัยรุ่น ถือว่าเป็นแนวทางรณรงค์ที่ถูกต้อง เนื่องจากบริษัทที่ผลิตบุหรี่รู้จุดอ่อนตรงนี้และมองเห็นช่องว่างที่เหลืออยู่ทางด้านการตลาด เพราะว่าโอกาสที่จะเพิ่มการตลาดในกลุ่มผู้หญิงยังมีอยู่มาก จึงมามุ่งเน้นตรงนี้ ดังนั้นจึงต้องช่วยกันในการที่จะรณรงค์ให้ประชาชนทุกกลุ่มสูบบุหรี่ลดลงโดยเฉพาะกลุ่มหญิงวัยรุ่นที่เป็นเป้าหมายทางการตลาดของบริษัทผลิตบุหรี่


      นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงสูบบุหรี่มากขึ้นนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการทำการตลาดของบริษัทบุหรี่ที่มีการออกแบบุหรี่ในหลายรูปแบบ เช่น การใส่กลิ่น ปรับรส เน้นในเรื่องของการโฆษณาเพื่อที่จะจูงใจให้ผู้หญิงหันมาสูบบุหรี่มากขึ้น รวมถึงมีการผลิตบุหรี่เพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงต้องรู้เท่าทันบริษัทบุหรี่โดยเฉพาะบริษัทบุหรี่ข้าชาติ หากไม่มีความเข้มแข็งพอ ตกไปเป็นเหยื่อทางการตลาดจนในที่สุดอาจตกเป็นทาสของบุหรี่ซึ่งจะนำมาสู่โรคภัยไข้เจ็บ เฉพาะในประเทศไทยพบว่าผู้เสียชีวิตทุก 10 คน จะมี 1 คนที่เสียชีวิตการสูบบุหรี่

         


ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับมูลนิธิ หน่วยงานต่างๆรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ ซึ่งจะต้องดำเนินการตลอดอย่างต่อเนื่องรวมถึงการออกกฎระเบียบเพิ่มเติม เช่นประกาศกระทรวงฉบับที่ 19 ซึ่งได้กำหนดเขตพื้นที่ที่ห้ามสูบบุหรี่เพิ่มเติมขึ้น โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.ห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด เช่น สนามกีฬา ศาสนาสถาน 2.สูบได้ในพื้นที่ที่กำหนดไว้นอกตัวอาคาร และ3.สูบได้ในอาคาร ซึ่งประเทศไทยอนุญาตให้สูบได้เพียงพื้นที่เดียว คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ในส่วนต่างประเทศ ทั้งนี้ในอนาคตจะต้องห้ามสูบด้วย ขณะนี้ได้ร่วมมือกับองค์การอนามัยลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง สสส.กับองค์การอนามัยโลก โดยจัดให้เรื่องบุหรี่เป็นอีกเรื่องที่จะร่วมมือกันดำเนินการต่อไป ซึ่งหากร่วมมือรณรงค์อย่างจริงจัง ตัวเลขผู้สูบบุหรี่จะลดลง นายจุรินทร์ กล่าว


 

 


 

 ....................... 30 พฤษภาคม 2553


   
   


View 11    30/05/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ