ที่คาดเป็นเหตุเด็กวัย 18 ปีเสียชีวิตที่นนทบุรี    ประสานกระทรวงไอซีที ปิดเว็บไซต์ที่จำหน่าย และให้นำตัวผู้กระทำผิดมาร่วมแถลงข่าวให้สังคมได้เห็นหน้า เพื่อให้หลาบจำ  ไม่กระทำผิดซ้ำซากอีก    ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรืออ้างว่าเป็นยาทางเว็บไซต์ ชี้อันตรายสูง เพราะส่วนใหญ่แอบใส่ยาลดความอ้วน

วันนี้ (2 มิถุนายน 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ให้สัมภาษณ์กรณีมีเด็กนักเรียนชั้นม.6 อายุ 18 ปี เสียชีวิตที่จังหวัดนนทบุรี และคาดว่าอาจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อแอล คาร์นิทีน พลัส (L-Carnitine Plus+) และพาวดี สลิม แคปซูล (PAODY  SLIM CAPSULE) ในห้องผู้เสียชีวิต นั้น  
 
          นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค ได้ร่วมกันดำเนินคดีกับบริษัทแอดวานซ์ ไบโอ โพรดัคส์ จำกัด เลขที่ 50/13 หมู่ 20 ซอยบุญมีทรัพย์  ถนนบางพลี  จ.สมุทรปราการ   มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2552  เนื่องจากเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอล คาร์นิทีน พลัส ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ พบว่า เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ได้รับอนุญาต มีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง โดยอ้างว่าช่วยเผาผลาญระบบการย่อยอาหาร ขณะเดียวกันแอบใส่ยาลดความอ้วนไปด้วย ตัวยาลดความอ้วนที่มีการลักลอบใส่ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีชื่อว่า ซาลบูตามีน (Salbutamine) กระทรวงสาธารณสุขจัดเป็นยาอันตราย มีการควบคุมพิเศษ การใช้ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น  
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ส่วนพาวดี สลิม แค็ปซูล ตรวจเบื้องต้นพบไม่เลขทะเบียนอย. เช่นกัน คาดว่าอาจใส่ยาลดความอ้วนลงไปด้วย ซึ่งจะได้ตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป และจะต้องติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี   กรณีไม่มีเลขทะเบียน อย.มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท กรณีใส่ยาลดความอ้วนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ปรับไม่เกิน 30,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ 
      
 
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการโฆษณาว่าช่วยลดน้ำหนัก ขณะนี้พบมีการขายกันทั่วไปในห้างสรรพสินค้า บู๊ทขายของตามศูนย์การค้า ซึ่งมีความผิดทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย รวมทั้งเว็บไซต์ที่เผยแพร่ด้วย ได้สั่งการให้อย.ประสานกับกระทรวงไอซีที เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขสามารถดำเนินการปิดเว็บไซต์ที่หลอกลวงผู้บริโภคได้เอง  
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้บิดาของนักเรียนหญิงที่เสียชีวิตได้เข้าพบและร้องเรียนให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่พบในห้องของลูกสาวที่เสียชีวิต ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้รับเรื่องไว้และส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป  และอย.จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) นำผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป
 “ต่อไปนี้จะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้นำผู้กระทำผิดมาร่วมแถลงข่าวด้วย เพื่อให้สังคมได้เห็นหน้าคนที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะที่ผ่านมาเมื่อถูกจับกุมแล้ว ก็จะปิดบริษัทและไปเปิดใหม่ หลอกลวงประชาชนไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดความหลาบจำ ไม่กระทำผิดซ้ำอีก และให้อย.เผยแพร่รายชื่อผลิตภัณฑ์ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีทางเว็บไซต์ทั้งชื่อบริษัท ชื่อผู้กระทำความผิดด้วย เพื่อให้ประชาชนรับทราบและไม่หลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาใช้จนเกิดอันตรายอีก” นายจุรินทร์กล่าว   
นายจุรินทร์กล่าวต่ออีกว่า ประชาชนที่อยากลดความอ้วนหรือไม่ต้องการอ้วน มีคำแนะนำ วิธีปฏิบัติตัวที่ดีที่สุดคือรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ รับประทานแต่พออิ่ม หลีกเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต แป้ง ไขมัน และให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่กันไป แต่หากอ้วนจนถึงขนาดจำเป็นต้องลดความอ้วน ก็อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ ซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรืออ้างว่าเป็นยาผ่านตลาดใดๆทั้งสิ้น เพราะส่วนใหญ่มักจะมีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง และแอบใส่ยาลดความอ้วนซึ่งเป็นยาอันตรายลงไปด้วย เมื่อรับประทานเข้าไปจะทำให้ปากคอ แห้ง ใจสั่น ในที่สุดนำไปสู่การช็อค เสียชีวิตได้ วิธีที่ดีที่สุดคือจะต้องไปพบแพทย์ขอคำแนะนำ และปฏิบัติตัวภายใต้การควบคุมของแพทย์ ซึ่งจะเป็นวิธีเสี่ยงอันตรายน้อยที่สุด  
  
ทางด้านนายพิชัย บิดาของผู้เสียชีวิตจากาการกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต กล่าวว่า  มีลูกสาวคนเดียว ขอให้กรณีของลูกสาว เป็นกรณีศึกษาของผู้ที่คิดจะสั่งซื้อยาลดความอ้วนทางเว็บไซต์ โดยที่ไม่มีการรับรองจากแพทย์ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ไม่เคยคิดถึงชีวิตของประชาชนที่บริโภค เพราะเกิดผลร้ายต่อสุขภาพอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต ได้ไปรับลูกจากที่ทำงาน และลูกบ่นว่ามีอาการเหนื่อย พอรุ่งเช้าก็เสียชีวิต   จึงขอเตือนให้เยาวชนอย่าไปซื้อยาลดความอ้วนทางเว็บไซต์ ขอให้เชื่อผู้ปกครองจะดีที่สุด   
 ***************************      2 มิถุนายน 2553
 


   
   


View 3       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ