วันนี้ (12 มิถุนายน 2553) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในจังหวัดขอนแก่น ว่า มีการลักลอบเปิดคลินิกเถื่อนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคลินิกจัดฟัน คลินิกเสริมความงาม คลินิกทำแท้ง โดยมีนักศึกษา สาวกลางคืน หรือสาวประเภทสองไปใช้บริการ ซึ่งคลินิกดังกล่าวเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกับสาธารณสุขจับกุม แต่ไม่ถึงเดือนก็กลับมาเปิดใหม่เหมือนเดิม และเปิดสถานที่เดิมอีก จากข้อร้องเรียนดังกล่าว ได้สั่งการให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนแล้ว เพื่อดูแลคุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชน หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างไม่ละเว้น ตลอดจนให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้เกิดความตระหนักในการใช้บริการในคลินิกเถื่อน เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ และได้กำชับเน้นย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เปิดสายรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนและให้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้สถานพยาบาลต่างๆ ติดใบอนุญาตการให้ประกอบกิจการ และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพพร้อมรูปถ่าย ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ ไว้ในร้านหรือคลินิกให้เห็นได้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นคลินิกที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ให้การตรวจรักษาเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตตัวจริงตรงกับใบอนุญาตที่ติดไว้ในคลินิก หากประชาชนรายใดเข้าไปใช้บริการแล้วไม่พบหลักฐานดังกล่าวให้สงสัยว่าอาจเป็นสถานพยาบาลเถื่อน สามารถร้องเรียนหรือแจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ หรือแจ้งที่สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ โทร 02-590-1329 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีกฎหมายควบคุม 3 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2537 และพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ทางด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า กรณีคลินิกที่ถูกจับและตรวจสอบพบว่าเป็นคลินิกเถื่อน จะถูกดำเนินคดีฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่มีสิทธิเปิดดำเนินการได้อีก หากเปิดก็จะถือว่าผิดกฎหมายเช่นเดิม ส่วนกรณีของสถานพยาบาลที่เปิดถูกต้องตามกฎหมาย หากถูกจับกุมดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดคือให้จำคุก จะมีผลให้ผู้อนุญาตโดยคำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล ออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการได้ หรือถ้าผู้ได้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และคณะกรรมการสถานพยาบาลเห็นว่าเป็นกรณีร้ายแรงอันตราย มีผลกระทบต่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยต่อไป สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ มีอำนาจออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลได้ ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้หากผู้ใดถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว จะขอรับใบอนุญาตใหม่อีกไม่ได้ จนกว่าจะพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ******************************** 12 มิถุนายน 2553


   
   


View 21    12/06/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ