วันนี้ (23มิถุนายน 2553)ที่หอประชุมกองทัพเรือ กรุงเทพ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์     ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมตัวแทน อสม.ทั่วประเทศประมาณ 2,000 คน “อสม.ล้านดวงใจ สร้างสุขภาพคนไทย ถวายพ่อของแผ่นดิน” เนื่องในงานวันอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำปี 2553

          นายจุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันบทบาทของอสม.ในการดูแลประชาชนมีทั้งหมด 5 มิติ ได้แก่ 1.การส่งเสริมสุขภาพ 2.การควบคุมและป้องกันโรค 3.การรักษาพยาบาลเบื้องต้น 4.การฟื้นฟูสมรรถภาพ และ 5.การคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่ง อสม.ทั้งหมดปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง ร่วมมือในการดูแลสุขภาพประชาชนจนได้รับการยอมรับทั้งในระดับชาติและสากล

 
          นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า การทำงานของ อสม. จะต้องเป็นเชิงรุก เป็นผู้นำทางด้านสุขภาพ 3 เรื่อง คือ 1.นำนโยบายของรัฐบาลในด้านสุขภาพลงสู่ชุมชนให้เป็นผลสำเร็จ ซึ่ง อสม.จะต้องมีความรู้สามารถนำไปถ่ายทอดสู่ประชาชนได้ 2.อสม.จะเป็นกลไกสำคัญในการดูแลประชาชนเชื่อมโยงระหว่างชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และกระทรวงสาธารณสุข และ3.จะต้องร่วมกันสร้างนวตกรรมในการดูแลสุขภาพสอดคล้องกับสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่เป็นแผนสุขภาพตำบลซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผน จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน กรกฎาคม 2553 โดย 1ตำบล จะต้องมีแผนสุขภาพอย่างน้อย 3 แผน ในขั้นต้นจัดเป็นแผนดำเนินการระยะสั้น 5 เดือน และมีแผนในปี 2554 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – ธันวาคม 2554  
 
ทั้งนี้ยังได้ให้มีการจัดตั้งกองทุนสุขภาพตำบล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของอสม. โดยใช้งบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ให้เป็นรายหัวรายละ 40 บาท และงบจากหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของเงินที่ได้รับจาก สปสช. เพื่อทำงานเชื่อมโยงกับ 4 กลไก ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อาสาสมัครสาธารณสุข แผนสุขภาพตำบล และกองทุนสุขภาพตำบล
 
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อสม.ยังมีภารกิจพิเศษคือการร่วมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ร่วมกับทีมแพทย์ พยาบาล ในการดูแลเยียวยาจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เพื่อสร้างความปรองดองในชุมชน จากผลสำรวจพบว่าประชาชนมีความเครียดสูงถึงร้อยละ 28.7 ซึ่งปกติจะต้องมีค่าไม่เกินร้อยละ 10 โดยตั้งเป้าหมายภายใน 6 เดือนจะให้ลดลงเหลือร้อยละ 20 และภายใน 1ปีเหลือร้อยละ 15 โดยจะดำเนินการใน กทม. 10 เขต 45ชุมชน และใน 47จังหวัด รวม 4,800ตำบล
 
สำหรับสวัสดิการของ อสม. นั้น จะให้ทุนลูก อสม. ในการศึกษาต่อในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ปีละ 150คน ทันตสาธารณสุข ปีละ 75คน เทคนิคเภสัช ปีละ 75 คน และหลักสูตรสาธารณสุขชุมชน ปีละ 75คน นอกจากนี้ อสม.ที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6สามารถขอเรียนต่อในหลักสูตรของ กศน. ได้ ส่วนสวัสดิการเรื่องค่ารักษาพยาบาล อสม.ที่เจ็บป่วย สามารถเข้ารับการรักษาในห้องพิเศษโดยได้รับการลดหย่อนค่าห้อง ร้อยละ 50 ส่วน อสม.ที่ทำงานมากกว่า 10ปีและเป็น อสม.ดีเด่น จะได้รับการยกเว้นค่าห้องพิเศษ และนอกจากนี้ยังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดิเรกคุณาภรณ์เหรียญเงินและเหรียญทองด้วย นายจุรินทร์ กล่าว
   ........................................      23 มิถุนายน 2553
 


   
   


View 6       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ