ขณะนี้นอนรักษาตัว 52 ราย แนะผู้ที่สูดดมสารพิษเข้าไป หากมีอาการผิดปกติแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หรือวิงเวียน ให้พบแพทย์
วันที่ (15 กรกฎาคม 2553) เวลา 14.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่บริษัท แมรี่กลอส จิวเวอรี่ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บางปะอิน ถนนสายเอเชีย ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับเครื่องประดับ เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บกว่า 20 ราย
สำหรับความคืบหน้าในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ส่งชุดปฏิบัติการขั้นสูงและขั้นพื้นฐานจากโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี และทีมจากโรงพยาบาลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมรถพยาบาลฉุกเฉินออกไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่โรงงานเกิดเหตุ พร้อมประสานกรมควบคุมมลพิษ
นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบชัดเจนว่าสารเคมีที่รั่วไหลออกมานั้น เป็นสารปรอทหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากกรมควบคุมมลพิษ โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าควันจากไฟไหม้ ประกอบด้วยสารจากการเผาไหม้โฟม ซึ่งอาจเป็นพวกคาร์บอน เบื้องต้นมีผู้ป่วยทั้งหมด 65 ราย ไม่มีเสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน แน่นหน้าอก ชักเกร็ง หายใจติดขัด ชาที่นิ้วมือนิ้วเท้า ทีมแพทย์กู้ชีพนำส่งรักษาตัวในโรงพยาบาล 4 แห่งคือ โรงพยาบาลราชธานี จำนวน 11 ราย โรงพยาบาลบางปะอิน จำนวน 2 ราย โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จำนวน 6 ราย และโรงพยาบาลนวนคร 2 จำนวน 46 ราย หลังจากที่แพทย์ให้การรักษาและอาการดีขึ้นจึงให้กลับบ้านได้ 13 ราย คงเหลือนอนโรงพยาบาล 52 ราย โดยอยู่ที่โรงพยาบาลนวนคร 2 จำนวน 46 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 4 ราย แต่ทุกรายรู้สึกตัวดีและหายใจเองได้ อีก 6 รายอยู่ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ซึ่งล่าสุดเทศบาลได้ทำการดับเพลิงและควบคุมสถานการณ์ได้แล้วเมื่อเวลา 15.30 น.
นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อไปว่า การเจ็บป่วยของคนงานในโรงงานแมรี่กลอส จิวเวอรี่ อาจเกิดจากควันพิษจากการเผาไหม้ร่วมกับสารพิษที่มีอยู่บ้าง ทั้งนี้สารที่เป็นก๊าซส่วนใหญ่สามารถรักษาโดยวิธีประคับประคองตามอาการ เช่น ให้ออกซิเจน ให้สารน้ำทางเส้นเลือด และอาจให้ยาลดอาการบวมของเยื่อบุทางเดินหายใจในรายที่มีอาการหนัก ซึ่งสารพิษเหล่านี้จะค่อยๆ ถูกขับออกทางลมหายใจได้เอง ล่าสุดผู้ป่วย 2 รายที่โรงพยาบาลบางปะอิน อาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
นายแพทย์สุพรรณกล่าวอีกว่า ประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือคนงานที่ทำงานในโรงงาน หากหลังจากนี้มีอาการแน่นหน้าอก หายใจติดขัด วิงเวียนศีรษะ ขอให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยในวันพรุ่งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค จำนวน 1 ทีมเพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามอาการของผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วย
*********************************** 15 กรกฎาคม 2553