พร้อมเสนอให้เพิ่มภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาต่ำให้หนักขึ้น เพิ่มความยากวัยรุ่นเข้าถึง   ชี้เบียร์ไทยราคาถูกกว่าต่างชาติ กว่า 2 เท่าตัว เหล้าขาวถูกกว่าร้อยละ 75   

เช้าวันนี้ (16 กรกฎาคม 2553) ที่โรงแรมอมรินทร์ ลากูน จ.พิษณุโลก ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัดพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่ภาคเหนือ 17  จังหวัด  เพื่อชี้แจงกฎหมายลูกหรืออนุบัญญัติที่ออกใหม่ในปี 2553 ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 จำนวน 4 ฉบับที่ใช้ ได้แก่ 1.กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการแสดงภาพสัญลักษณ์เพื่อประกอบการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์2.ประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่าด้วยรูปแบบและวิธีการแสดงข้อความคำเตือนประกอบภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือภาพสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.ระเบียบคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบอัตราค่าปรับผู้กระทำผิดกฎหมาย และ4.คำสั่งคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรื่องการมอบหมายให้ดำเนินการเปรียบเทียบอัตราค่าปรับ   ซึ่งจากนี้ไปเจ้าหน้าที่ทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้อง คือสาธารณสุขสรรพสามิต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการควบคุมผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนสามารถลงโทษได้ตามกฎหมายได้ทันที พร้อมมอบป้ายสถานที่ราชการปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด มอบป้ายสวนสาธารณะปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่นายกเทศมนตรี เทศบาลนคร/เมือง
ในการนี้ดร.พรรณสิริ ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของ นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ลดภาษีนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบเป็น 0 เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและก่อให้เกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และเห็นควรเพิ่มภาษีสรรพสามิตควบคู่กันไปด้วย เพราะเป็นภาษีที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อราคาของเครื่องดื่ม ซึ่งจะทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ยากขึ้น เนื่องจากจะมีราคาที่สูงขึ้น
ดร.พรรณสิริกล่าวว่า ในการเพิ่มภาษีสรรพสามิตสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีราคาต่ำ    ให้มุ่งเน้นใน 2มิติคือ เครื่องดื่มที่มีราคาต่อบรรจุภัณฑ์ต่ำหรือมีราคาต่อขวดหรือกระป๋องต่ำ เช่น เบียร์ เหล้าปั่น กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีราคาต่อปริมาณแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ต่ำสุด  เช่น เหล้าขาว เป็นต้น เนื่องจากมีข้อมูลวิชาการพบว่า ราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยจัดว่ามีราคาต่ำเมื่อเทียบค่าเฉลี่ยนานาชาติที่ปรับตามราคาต่อค่าครองชีพในประเทศต่าง ๆ  โดยราคาเบียร์ในไทยถูกกว่าราคาเฉลี่ยนานาชาติถึง 2.36 เท่า ในขณะที่ราคาสุรากลั่นหรือเหล้าขาวในประเทศไทยก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติถึงร้อยละ 75  
นอกจากนั้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา ราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แท้จริง (Real Price) เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งสวนทางกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น จึงทำให้คนไทยมีกำลังซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงขึ้น เพราะรายได้สูงขึ้นแต่ราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีแนวโน้มต่ำลง จึงเสนอว่าควรจะมีการทบทวนเรื่องการจัดเก็บภาษีใหม่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาและป้องกันเยาวชนหน้าใหม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทันต่อสถานการณ์                                                                                                               
ทั้งนี้ในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่จะถึงในวันที่ 26-27 กรกฎาคม 2553 นี้ ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1-12   ออกตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผล รวมถึงตรวจจับดำเนินคดีกับผู้ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันดังกล่าวอย่างเข้มงวดจริงจัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและและขอเชิญชวนประชาชนให้ลด ละ เลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดเข้าพรรษานี้ และถ้าเป็นไปได้ก็ตลอดชีวิต เพื่อผลดีต่อสุขภาพของตนเองและประเทศชาติในภาพรวมต่อไป ดร.พรรณสิริกล่าว
  *************************************** 16 กรกฎาคม 2553


   
   


View 13    16/07/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ