วันที่ (16 กรกฎาคม 2553) นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ ที่บริษัท แมรี่กลอส จิวเวอรี่ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บางปะอิน ถนนสายเอเชีย ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับเครื่องประดับ มีพนักงานประมาณ 4,000 คน ว่า ในวันนี้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเหตุสารพิษรั่วไหลจากเตาหลอมโลหะที่บริษัท แมรี่กอท จอวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีก มีผู้สูดควันพิษจากโรงงานแห่งนี้เพิ่มอีก 35 คน ได้นำส่งโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลนวนคร 7 คน โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา 4 คน และโรงพยาบาลราชธานี 24 คน ในจำนวนนี้แพทย์รับไว้รักษาตัวทั้งหมด 9 คน อยู่ที่โรงพยาบาลราชธานี 2 คน และโรงพยาบาลนวนคร 7 คน อาการส่วนใหญ่แน่นหน้าอก เวียนศีรษะ หายใจติดขัด
นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นพนักงานชายอายุ 28 ปี จากรายงานเบื้องต้น หลังเกิดเหตุเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ไม่มีอาการผิดปกติ แต่เสียชีวิตในเช้าวันนี้ สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงยังระบุไม่ได้ว่ามาจากการสูดควันพิษหรือไม่ ในเบื้องต้นแพทย์ที่ภาควิชานิติเวชวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตวินิจฉัยว่า เสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ต้องรอผลการตรวจชันสูตรสารพิษ จะทราบผลอีกประมาณ 1 เดือน
นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อไปว่า สรุป 2 วัน มีผู้สูดควันพิษ ที่เกิดในบริษัท แมรี่กลอส จิวเวอรี่ รวมทั้งหมด 107 คน แพทย์ให้การรักษา อาการดีขึ้นและกลับบ้านได้แล้ว 95 คน ยังเหลือนอนรักษาในโรงพยาบาล 12 คน ในโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลนวนคร 2 จำนวน 9 คน โรงพยาบาลนวนคร 1 จำนวน 1 คน และโรงพยาบาลราชธานี 2 คน ทุกรายอาการปลอดภัย
นายแพทย์สุพรรณกล่าวอีกว่า ในบ่ายวันนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และจากสำนักงานควบคุมโรคเขต 1 รวม 5 คน โดยมีนายแพทย์พิบูลย์ อิสระพันธุ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานเฝ้าระวัง สอบสวนโรคและข่าวกรอง สำนักงานควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรคเป็นหัวหน้าทีม ไปที่โรงพยาบาลนวนคร 2 เพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามอาการของผู้ป่วยที่นอนรักษาตัว โดยพบว่าสถานการณ์ไม่รุนแรง ขณะนี้ทุกรายอาการดีขึ้น ซึ่งทีมจะได้ประเมินระบบความปลอดภัยขณะทำงาน เพื่อประกอบกับผลการตรวจพิสูจน์สารพิษของกรมควบคุมมลพิษ และวางแผนการป้องกันต่อไป
*********************************** 16 กรกฎาคม 2553
View 14
16/07/2553
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ