ต่อที่ประชุมฯ พร้อมผลักดันกรอบความร่วมมือการเข้าถึงบริการสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพระดับภูมิภาค และขยายสาธารณสุขอาเซียนเพิ่มอีก 3 ประเทศ
วันนี้ (22 กรกฎาคม 2553 ) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวว่า ได้นำคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ครั้งที่ 10 ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 22-23 กรกฎาคม 2553 โดยจะมีการหารือกรอบความร่วมมือด้านสาธารณสุข ใน 3 เรื่อง คือความปลอดภัยด้านอาหาร การควบคุมโรค โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมถึงการเข้าถึงบริการสุขภาพและการส่งเสริมสุขภาพ สำหรับ 2 เรื่องแรก อาเซียนมีคณะทำงานติดตามการดำเนินงานอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว ส่วนประเด็นที่ 3 ไทยเห็นว่าต้องมุ่งเน้นเพิ่มเติมเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีการเตรียมรายงานผลการดำเนินงานด้านสาธารณสุขของประเทศไทย 9 เรื่อง ประกอบด้วย 1. การเพิ่มงบค่าใช้จ่ายรายหัวการรักษาพยาบาลฟรี เพิ่มอีก 145 บาทต่อหัว 2.การรักษาฟรีในโรคสำคัญและมีค่าใช้จ่ายสูง อาทิ โรคเอดส์ โรคหัวใจ โรคไต เป็นต้น 3. ขยายสิทธิการรักษาพยาบาลกลุ่มผู้ประกันตนไปยังบุตรและคู่สมรส 4. การแก้ปัญหาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานและโรคอ้วนซึ่งไทยประสบปัญหา 1 ใน 3 ของประชากร โดยได้ทำการตรวจคัดกรองโรคและให้การรักษาฟรีอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มรณรงค์ในเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชนไทย เรื่องกินอาหารที่ลดความหวาน มัน เค็ม เพิ่มการออกกำลังกาย
5. การให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนซึ่งมีปีละ 800,000 คน ได้รับไอโอดีนป้องกันเด็กเป็นโรคปัญญาอ่อน 6. การปรับปรุงกฎหมายโดยย้ำให้มีการเติมไอโอดีนในเกลือและน้ำปลา 7. การให้เด็กอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดื่มนมฟรี 8. รณรงค์ลดละเลิกเหล้า บุหรี่อย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับโลก และ 9. ในปี 2553-2554 จะยกระดับสถานีอนามัยให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 10,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพ และรักษาพยาบาลในระดับตำบลและหมู่บ้าน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการทำงานร่วมกันของบุคลากรสาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน(อสม.) ที่ได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก
นายจุรินทร์กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในช่วงเช้าวันนี้ (22 กรกฎาคม 2553) จะมีการหารือขยายกรอบความร่วมมือสาธารณสุขอาเซียนไปยังเอเชียตะวันออก ซึ่งจะมีการพิจารณาเพิ่มประเทศออสเตรเลีย อินเดียและนิวซีแลนด์ด้วยและในอีก 2 ปีไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ซึ่งไทยมีความพร้อมและประสบการณ์ในการจัดประชุมระดับอาเซียนอยู่แล้ว
**************************************** 22 กรกฎาคม 2553