สาธารณสุขเผยผลสำรวจพบวัยรุ่นที่มีปัญหา ทั้งเรื่องเพศ เรื่องท้อง ร้อยละ 11 เท่านั้นที่พึ่งผู้ใหญ่ อีก            ร้อยละ 67 พึ่งเพื่อน เร่งแก้ไขโดยเปิดคลินิกบริการวัยรุ่นในโรงพยาบาลทุกระดับ เพื่อเป็นศูนย์บริการที่เป็นมิตร เข้าถึงง่าย และอาจใช้มือถือเป็นช่องทางปรึกษาเป็นการป้องกันปัญหา มีทางออกที่เหมาะสม ปลอดภัย ปี 2552-2553 ดำเนินการแล้ว 21 จังหวัด ตั้งเป้าครอบคลุมทุกโรงพยาบาลอย่างน้อยร้อยละ 80 ภายในปี 2557     

วันนี้(28 กรกฎาคม 2553)ที่กระทรวงสาธารณสุข ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายพร้อมบุญ พานิชภักดิ์ เลขาธิการมูลนิธิรักษ์ไทย และนายแพทย์ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอชไอวี จากกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ร่วมกันแถลงข่าว เรื่อง “อนามัยเจริญพันธ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นไทย”
ดร.พรรณสิริ กล่าวว่า จากผลสำรวจล่าสุดพบเยาวชนไทยทั้งชายหญิงมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเร็วขึ้นคือมีอายุเฉลี่ย 15 – 16 ปี ทำให้เกิดปัญหาหลัก 2 เรื่องใหญ่ คือ โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์สูงขึ้นได้แก่ หนองใน หนองในเทียมแผลริมอ่อน กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง ซิฟิลิส และแผลกามโรคเรื้อรังที่ขาหนีบ ในปี 2551 พบทั้งหมด 4,015 ราย เป็นหญิงมากกว่าชาย เสี่ยงเกิดมะเร็งปากมดลูกเนื่องจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเร็ว ที่ร้ายแรงที่สุดคือโรคเอดส์ขณะนี้พบเยาวชนติดเอดส์มากขึ้นจากร้อยละ 7 ในปี 2544 เป็น ร้อยละ 14 ในปี 2547 และปัญหาที่ 2 คือ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรทำให้เกิดปัญหาแม่วัยรุ่นเพิ่มขึ้น จาก ร้อยละ9 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 11ในปี 2551 ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดที่มีปีละประมาณ 800,000 คน เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขโดยร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมและปลอดภัยกับวัยรุ่น
ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้มีนโยบายเพิ่มช่องทางให้บริการวัยรุ่นอย่างเป็นทางการโดยเปิดคลินิกบริการเฉพาะในลักษณะบริการที่เป็นมิตร(Youth Friendly Health Service)ในโรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับ โดยบูรณาการวิชาการระหว่างกรมควบคุมโรคกับกรมอนามัย และทำงานร่วมกับองค์กรเอกชน เช่น องค์การแพธ มูลนิธิรักษ์ไทย มูลนิธิดวงประทีป สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย ที่ดูแลในชุมชน ซึ่งจะทำให้บริการสมบูรณ์แบบและเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย มีการประงานงานระหว่างชุมชน สถานประกอบการ โรงเรียนโรงพยาบาล ในปี 2552 ดำเนินการแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี มหาสารคาม และพิษณุโลก ในปี 2553 เพิ่มอีก 18 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี ขอนแก่น ระยอง ชัยภูมิ สมุทรสงคราม สระแก้ว สุราษฎร์ธานี เพชรบูรณ์ ลำปาง ยะลา อุทัยธานี พิจิตร เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี สมุทรสาคร เพชรบุรี นครปฐม ตั้งเป้าภายในปี 2557 จะให้ครอบคลุมโรงพยาบาลทุกแห่งอย่างน้อยร้อยละ 80
ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อไปอีกว่า จากข้อมูลผลสำรวจวัยรุ่นที่มีปัญหาพบว่าร้อยละ 67 ยังขาดความรู้และทักษะในเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และเมื่อมีปัญหาความรัก ร้อยละ 67 เลือกที่จะปรึกษาเพื่อน มีเพียงแค่            ร้อยละ 11 ที่กล้าปรึกษาผู้ใหญ่เนื่องจากอาย และไม่กล้าปรึกษาเพราะเห็นว่าผู้ใหญ่ คือ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ไม่เคยเข้าใจปัญหา ฉะนั้นบริการของคลินิกวัยรุ่นจะให้บริการแบบเป็นกันเองโดยมีพยาบาลเป็นบุคลากรหลักให้คำปรึกษาทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดอื่นๆ หรือบริการอื่นตามที่วัยรุ่นต้องการซึ่งรูปแบบการบริการจะมีทั้งบริการในเวลาราชการและนอกเวลาราชการโดยอาจมีการใช้มือถือซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่มี เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกและคล่องตัว ประการสำคัญลดความอายได้เป็นอย่างดี
......................           28 กรกฎาคม 2553


   
   


View 17    28/07/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ