วันนี้(28 กรกฎาคม 2553) ที่อิมแพคเมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานรวมพล คนรักสุขภาพ ทำความดีเข้าพรรษาปี 2553 ซึ่งเป็นหนึ่งในกิกรรมของ “โครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวงทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 เพื่อสร้างกระแสการตื่นตัวในการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ หลอดเลือดของประชาชนในช่วงเข้าพรรษา และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหรือกลุ่มเสี่ยงได้รับรู้ปัจจัยเสี่ยง เกิดความตระหนักถึงภัยอันตรายและเข้าร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้าน 3 อ. และ 2 ส. คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ สุรา สูบบุหรี่ ตามใบสั่งทำความดีเข้าพรรษาที่มีปฏิบัติให้เลือกได้ 9 ข้อ
ซึ่งในวันนี้ มีการประกวดแข่งขันเต้นแอโรบิกของชมรมออกกำลังกายในกทม. 54 ทีม ได้มอบรางวัลแก่ทีมชนะเลิศ และการออกกำลังกายโดยมีคุณติ๊ก ชีโร่ พรีเซ็นเตอร์นำเต้น โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และชมรมออกกำลังกายของกทม. ร่วมออกกำลังกายกว่า 2,000 คน
นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วนมากขึ้น จนน่าเป็นห่วง หัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาคือการป้องกันไม่ให้เป็นโรคดังกล่าว เนื่องจากหากเป็นแล้วจะสูญเสียงบประมาณในการดูแลรักษาพยาบาลสูงมาก เพราะต้องดูแลตลอดชีวิต ดังนั้นการไม่เป็นโรคดีที่สุด มาตรการป้องกันที่ได้ผลดีที่สุด ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ต้องออกกำลังกาย อย่างน้อยที่สุดต้องลดหวาน มัน เค็ม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุข จึงต้องรณรงค์ 3 อ. คือ อาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์ และลด 3 ลด คือ ลดน้ำหนัก ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะลดภายในกี่สัปดาห์ ลดเท่าไหร่ อย่างน้อยที่สุดมาตรฐานสำหรับผู้ชายให้เอาส่วนสูงลบด้วย 100 จะได้น้ำหนักมาตรฐาน เช่น ส่วนสูง 165 หากลบด้วย 100 จะเหลือ 65 กิโลกรัมคือน้ำหนักมาตรฐาน สำหรับผู้หญิงเอาความสูงลบด้วย 110 จะเป็นน้ำหนักที่มีความเหมาะสม คือหากสูง 165 น้ำหนักต้องไม่เกิน 55 กิโลกรัม หากมีน้ำหนักเกินกว่านี้ต้องลดน้ำหนัก ลดที่ 2 คือลดการกินหวาน มัน เค็ม และลดที่ 3 คือ ลดอบายมุข อย่างน้อยที่สุดคือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดการสูบบุหรี่ หากปฏิบัติได้ตามนี้ เท่ากับดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี ไม่เป็นโรค
ทั้งนี้จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ทำการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงคนไทยทั่วประเทศ ยกเว้นกทม. เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552- 5 ธันวาคม 2552 มีผู้ได้รับการคัดกรองเบาหวานทั้งสิ้น 20,985,133 คน พบว่าปกติร้อยละ 85 กลุ่มเสี่ยงร้อยละ 8 กลุ่มเบาหวานรายใหม่ร้อยละ 1.6 กลุ่มเบาหวานรายเก่าร้อยละ 5 โดยกลุ่มนี้พบภาวะแทรกซ้อนทางตา ทางไตและเท้าร้อยละ 7 สำหรับผู้ที่ได้รับการคัดกรองวัดความดันโลหิตทั้งสิ้น 21,168,414 คน พบว่าปกติร้อยละ 78 กลุ่มเสี่ยงร้อยละ 11 กลุ่มป่วยรายใหม่ร้อยละ 3 รายเก่าร้อยละ 7 และในกลุ่มป่วยพบภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจ หลอดเลือดสมอง และไตร้อยละ 4
*********************************** 28 กรกฎาคม 2553