ผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขพ.ศ.....ทั้ง 2 ฝ่าย คาดในสัปดาห์หน้า ด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ทุกฝ่ายยึดผู้ป่วยเป็นหลัก ไม่ให้เสียประโยชน์ และลดความกังวลใจแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการถูกฟ้องร้อง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ.... ซึ่งขณะนี้อยู่บรรจุอยู่ในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีทั้งผู้ให้การสนับสนุนและคัดค้านร่างดังกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพเชิญทั้ง 2 ฝ่ายที่มีความเห็นไม่สอดคล้องกัน มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และพบปะพูดคุยกัน เพื่อหาข้อสรุปว่าสิ่งที่ควรจะเป็นอนาคตจะต้องเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีทั้งฝ่ายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติฯ และฝ่ายที่คิดว่าควรจะปรับปรุงแก้ไข ซึ่งปลัดกระทรวงฯ จะนัดหมายประชุมในรายละเอียดต่อและจัดเวทีให้ทั้งฝ่ายได้พบกัน โดยมีกระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการสรุปหรือระดมความคิดเห็นจากทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง
“อย่างไรก็ตาม ขอเรียนข้อมูลให้ทราบเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้ได้รับการบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีทั้งหมด 7 ร่าง คือร่างที่ผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองต่างๆ เสนอจำนวน 5 ร่าง มีทั้งจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ ขณะเดียวกันก็มีร่างของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 10,631 คน และร่างจากคณะรัฐมนตรี” นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ร่างที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุม ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาฯจะหยิบยกมาพิจารณาเมื่อใด แต่เท่าที่ดูระเบียบวาระ และรับทราบจากวิปรัฐบาลว่ายังมีวาระอื่นที่ยังคั่งค้างอยู่เบื้องต้นพอสมควร ในการพิจารณาของวิปฯ นั้น โดยทั่วไปแนวปฏิบัติมี 2 แนวทางคือเป็นไปตามระเบียบวาระ และตามความจำเป็นเร่งด่วน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุมสภาฯเป็นหลักว่าจะเห็นด้วยกับแนวทางไหน อย่างไร แต่เบื้องต้นฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่ยังมีข้อข้องใจควรจะมีโอกาสมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในขณะนี้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น ขอให้เวทีหารือทั้ง 2 ฝ่ายนี้เกิดขึ้นก่อน
ส่วนเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ในโรงพยาบาลต่าง ๆ แต่งชุดดำนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า การทำอะไรโดยไม่ละเมิดสิทธิ์คนอื่น ก็ไม่มีปัญหาสามารถทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละบุคคล แต่หลักใหญ่ๆ อยากเห็นทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกัน
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในวันนี้จะพบกับตัวแทนทั้ง 2 กลุ่ม เพื่อพูดคุยและหาจุดที่จะลงตัวกันได้ และจะนัดประชุมร่วมกันอีกครั้งโดยเร็วที่สุด คาดว่าภายในสัปดาห์หน้านี้ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายรู้สึกสบายใจขึ้น แต่ทั้งหมดในหลักการขอให้ยึดผู้ป่วยเป็นหลัก ไม่ให้เสียประโยชน์ ขณะเดียวกันให้ลดความกังวลใจของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการถูกฟ้องร้อง ผมคิดว่าทั้ง 2 ฝ่ายปรารถนาดีกับผู้ป่วย เพียงแต่ว่าอาจไม่สบายใจในบางประเด็น แต่หากได้พูดคุยกัน น่าจะมีข้อสรุปที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย
......................................... 29 กรกฎาคม 2553