นักวิชาการจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คิดค้นนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยต่อการบริโภค โดยพัฒนาชุดทดสอบการปนปลอมยาสเตียรอยด์ที่ห้ามใช้ในยาสมุนไพร คือ เดกซ์ซาเมธาโซน และเพร็ดนิโซโลน เป็นผลสำเร็จ สามารถนำไปใช้ตรวจสอบเบื้องต้นกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรทุกรูปแบบ เช่น ยาเม็ด ยาลูกกลอน และยากวน ให้ผลแม่นยำ รู้ผลรวดเร็ว อ่านผลง่ายด้วยตาเปล่าภายใน 10-15 นาที
ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2553 เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 78 พรรษา 12 สิงหาคม 2553 ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางสาววลัยลักษณ์ เมธาภัทร นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากสำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้รับรางวัลผลงานวิชาการยอดเยี่ยม ของปี 2552 จากดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากผลงานโดดเด่นในการวิจัยและพัฒนา“ชุดทดสอบอิมมูโนโครมาโทกราฟีของเดกซ์ซาเมธาโซน และเพร็ดนิโซโลนในผลิตภัณฑ์สมุนไพร” หรือชุดตรวจหาสารเสตียรอยด์ในผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างง่าย เพื่อใช้ในการคุ้มครองความปลอดภัยจากสารต้องห้ามใช้ในยาสมุนไพร
นางสาววลัยลักษณ์ กล่าวว่าปัจจุบันผลิตภัณฑ์สมุนไพร กำลังเป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยสมุนไพรมักแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริมและเครื่องสำอาง แต่ปัญหาที่น่าห่วง และมักเป็นประเด็นใช้โอ้อวดสรรพคุณยาสมุนไพร ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ก็คือกลุ่มยาแผนโบราณซึ่งทำในรูปของยาลูกกลอน ยาเม็ด ยากวน มีการลักลอบผลิตและวางจําหน่ายโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การผลิตขาดสุขลักษณะที่ดี ส่งผลให้ยาแผนโบราณพบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์สูง การติดฉลากโฆษณาโอ้อวดเกินจริง และที่เป็นอันตรายมากคือการนําตัวยาแผนปัจจุบันมาผสม โดยเฉพาะยาสเตียรอยด์ได้แก่ เดกซ์ซาเมธาโซน (dexamethasone) และเพร็ดนิโซโลน (prednisolone) ซึ่งมีความเป็นพิษสูงและจัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เมื่อนำไปกินในระยะแรกอาการจะดีขึ้นอย่างทันตาเห็น แต่พอต่อไปจะเกิดความเป็นพิษ แต่อวัยวะหลายส่วน
ทั้งนี้ยาเดกซ์ซาเมธาโซน และเพร็ดนิโซโลน เป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ที่พบมีการปนปลอมในผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร พิษของยาสเตียรอยด์จะกดภูมิคุ้มกันร่างกาย ทําให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารทําให้กระเพาะอาหารเป็นแผลหรือถึงขั้นทะลุได้ เกิดการสะสมของไขมันในอวัยวะบางส่วน ทําให้หน้ากลมผิดปกติ เรียกว่าหน้าพระจันทร์หรือมูนเฟซ (moon face) และหลังเป็นหนอกคล้ายหลังควาย เกิดการคั่งของเกลือ ทำให้บวม เป็นอันตรายมากต่อผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์นานๆ ทําให้กล้ามเนื้อลีบ กระดูกผุ นํ้าตาลในเลือดสูง ซึ่งในปัจจุบันได้มีมาตรการเพื่อควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์สมุนไพรมากขึ้น โดยการตรวจสอบหาการปนเปื้อนของยาแผนปัจจุบัน โดยเฉพาะยาในกลุ่มสเตียรอยด์ และกลุ่มอื่นๆที่อาจมีการเติมลงในยาสมุนไพร
นางสาววลัยลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า ในการตรวจสอบหาการปนปลอมเดกซ์ซาเมธาโซน และเพร็ดนิโซโลน ขณะนี้สามารถทำได้หลายวิธีแต่เป็นวิธีที่ต้องใช้ผู้ชำนาญการในการตรวจสอบ อีกทั้งมีขั้นตอนการเตรียมตัวอย่างหลายขั้นตอน ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ และผู้ชำนาญการในการทดสอบและอ่านผล ทำให้ยุ่งยาก เสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น โดยมีรายงานว่าผลการตรวจพบยาทั้งสองชนิดในยาแผนโบราณเพิ่มขึ้นตามการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ จึงส่งผลให้ต้องมีภาระงานของการตรวจสอบมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นจึงได้ทำการพัฒนาวิธีการตรวจให้ง่ายขึ้น สามารถนำไปใช้ในภาคสนามและประชาชนทั่วไปสามารถนำไปใช้ตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะส่งผลให้การคุ้มครองผู้บริโภคทุกพื้นที่เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
นางสาววลัยลักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า ในการพัฒนาชุดทดสอบสเตียรอยด์ดังกล่าว จะใช้เทคนิคอิมมูโนโครมาโทกราฟี เป็นเทคนิคที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือและผู้ชำนาญการในการทดสอบ โดยใช้หลักการของเกิดปฏิกิริยาระหว่างแอนติเจนและแอนติบอดี และให้แถบสีแดงสามารถอ่านผลได้ด้วยตาเปล่า โดยหากพบว่าเป็นเส้นสีแดง 2 เส้นแสดงว่าไม่มีการปนปลอมของยาสเตียรอยด์ในยาสมุนไพรที่ทดสอบ แต่ถ้าเห็นเป็นเส้นสีแดง 1 เส้น แสดงว่ามีการปนปลอมของสารสเตียรอยด์ในยาสมุนไพรที่ทดสอบ
โดยวิธีการตรวจสอบยาสมุนไพรด้วยชุดทดสอบด้วยเทคนิคอิมมูโนโครมาโทกราฟี มีดังนี้คือ ถ้าตัวอย่างยาสมุนไพรเป็นยาเม็ด ให้บดให้แตกละเอียดหรือใช้กรรไกรสะอาดตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ตักตัวอย่างด้วยหลอดพลาสติกสำหรับตักตัวอย่างหรือหลอดหยดตัวอย่างที่เป็นของเหลวลงในหลอดทดสอบพลาสติก จากนั้นให้หยดน้ำยาจากขวดบรรจุน้ำยาละลายตัวอย่างลงในหลอดทดสอบที่ใส่ตัวอย่างยาสมุนไพร แล้วปิดจุกพลาสติกให้แน่น จากนั้นเขย่าให้เข้ากันประมาณ 3 นาที ตั้งทิ้งไว้จนเกิดการแยกชั้น จากนั้นดูดน้ำยาส่วนใสไม่ให้มีฟองอากาศ และหยดลงในหลุมทดสอบในลักษณะตั้งตรงทีละหยด จำนวน 4 หยด อ่านผลการทดสอบภายใน 10-15 นาที
ขณะนี้ชุดทดสอบสเตียรอยด์ดังกล่าว ได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปแล้ว มีจำหน่ายที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในราคา ชุดละ 55 – 65 บาท ได้รับความสนใจและมีการติดต่อสอบถามทั้งจากหน่วยงานราชการและประชาชนทั่วไปที่จะนำไปใช้ในการตรวจสอบเดกซ์ซาเมธาโซนและ/หรือเพร็ดนิโซโลนที่ปนปลอมในยาแผนโบราณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ประชาชนโดยทั่วไปสามารถตรวจสอบการปนปลอมของเดกซ์ซาเมธาโซนและเพร็ดนิโซโลนในผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้ด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพในเวลาอันรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้ความชำนาญการหรือเครื่องมือพิเศษ จึงเป็นชุดตรวจสอบที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการตรวจสอบเบื้องต้นสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรยา และยังสามารถนำการพัฒนานี้ไปประยุกต์ใช้ตรวจสอบเดกซ์ซาเมธาโซน และเพร็ดนิโซโลนในผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆได้อีกด้วย นอกจากนี้องค์ความรู้ที่ได้รับในการพัฒนาวิธีตรวจสอบด้วยเทคนิคอิมมูโนโครมาโทกราฟีนี้เป็นแนวทางที่สำคัญในการนำไปพัฒนาชุดตรวจสอบชนิดรวดเร็วของสารชนิดอื่นๆได้ต่อไป”นางสาววลัยลักษณ์ กล่าว
*************************** 5 สิงหาคม 2553