สาธารณสุขร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ยกระดับความรู้อาสาสมัครสาธารณสุขทั่วประเทศ ให้เรียน ในระบบการศึกษานอกโรงเรียน ให้มีความรู้ขั้นต่ำระดับมัธยมปลาย เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

วันนี้ (22 กันยายน 2553) ที่โรงแรมเจริญโฮเต็ล จังหวัดอุดรธานี ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมโครงการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานอาสาสมัครสาธารณสุข ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษาเพราะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศในปีงบประมาณ 2554 นี้ กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาศักยภาพ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) โดยการยกระดับการศึกษาให้ อสม.ซึ่งเป็นผู้นำชุมชนในด้านสุขภาพ โดยจากการสำรวจพบว่า อสม. ร้อยละ 80 จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาจึงได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการจัดการยกระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับ อสม.โดยส่งเสริมให้เรียนในระบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนายกระดับสถานีอนามัยทั่วประเทศ 

ดร.พรรณสิริกล่าวต่อไปว่าในการจัดการศึกษาดังกล่าวอสม.สามารถใช้ภารกิจงานสุขภาพที่ปฏิบัติประจำมาใช้เทียบโอนหมวดวิชาโดยไม่ต้องเรียนใหม่อีกซึ่งโดยปกติทั่วไปใช้เวลา 2 ปี จะจบการศึกษาในแต่ละระดับ แต่ อสม.สามารถนำความรู้ ประสบการณ์ปฏิบัติการทำหน้าที่ของ อสม.มาเทียบโอนเพื่อจบการศึกษาก่อน 2 ปีได้และเมื่อจบถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ก็จะสามารถนำวุฒิไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือวิทยาลัยชุมชนต่างๆได้   เป็นผลดีต่อการพัฒนาอาชีพของ อสม.ต่อไปอีก

ทั้งนี้ จะเปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนตุลาคม2553นี้ อสม.ที่สนใจ สามารถสมัครเข้าเรียนได้ที่ กศน.ทุกตำบล หรือ กศน.อำเภอทุกพื้นที่ทั่วประเทศหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้สถานีอนามัยใกล้บ้านสำนักงานสาธารณสุขอำเภอสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือที่สายด่วน  1660 หรือที่เวปไซด์ www.nfe.go.th   ดร.พรรณสิริกล่าว

******************************************************* 22 กันยายน 2553



   
   


View 3       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ