“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 124 View
- อ่านต่อ
ซึ่งเป็นคู่สมรสและบุตรไปอยู่ระบบประกันสังคมประมาณ 5 ล้านคน
วันนี้ (11 ตุลาคม 2553) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 10 /2553 ว่า วันนี้ที่ประชุมมีมติให้ขยายสิทธิประโยชน์ให้ผู้ที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือระบบรักษาฟรี ให้สามารถสั่งยาหรือใช้ยาที่เกินกว่าบัญชียาหลักแห่งชาติได้ โดยให้เลขาธิการ สปสช. ไปพิจารณาแนวทางปฏิบัติโดยละเอียด เมื่อจะขอความเห็นชอบว่าจะเพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับยาตัวใด ก็ให้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นกรณีไป
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรี มีมติให้ความเห็นชอบให้ขยายสิทธิครอบคลุมในระบบประกันสังคมไปยังคู่สมรสและบุตรได้ และให้แก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคมนั้น จะมีผลให้ผู้ที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ออกจากระบบนี้ไปอยู่ในระบบประกันสังคมประมาณ 5 ล้านคน ซึ่งจะมีผลกระทบบางส่วนต่อสปสช. ในรายละเอียดจะกระทบหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน กระทบด้านใดบ้างนั้น ได้มอบหมายให้เลขาธิการ สปสช. ไปประเมินผลกระทบทั้งหมดทุกด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบ แล้วส่งให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพิจารณาต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนสุขภาพตำบล ถือเป็นนโยบายหลักที่กองทุนสุขภาพตำบลจะเป็น 1 ใน 4 กลไกหลักในการแก้ไขปัญหาสุขภาพในตำบล ซึ่งประกอบด้วย 1. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 2. อสม. 3. แผนสุขภาพตำบล และ 4. กองทุนสุขภาพตำบล ซึ่งสปสช.จะจ่ายงบประมาณสมทบให้ จากการจัดงบประมาณเป็นทุนประเดิมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้อยละ 20 ขึ้นไป โดย สปสช.จัดงบประมาณให้กองทุนเป็นเงิน 40 บาทต่อหัวประชากรในเขตรับผิดชอบของ รพ.สต.นั้นๆ ในปีที่ผ่านมา ได้จัดตั้งกองทุนสุขภาพตำบลไปแล้ว 5,000 กว่ากองทุน คิดเป็นร้อยละ 71 ของตำบลทั้งหมดทั่วประเทศที่มี 7,700 ตำบล สำหรับปีงบ 2554 นี้ จะเพิ่มการจัดตั้งกองทุนจากร้อยละ 71 ให้เป็นร้อยละ 91 โดยล่าสุดมีการขออนุมัติจัดตั้ง 7,100 กองทุน ได้มอบเป็นนโยบายเพิ่มเติม ให้สปสช.เร่งรัดประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มเติม และประชาสัมพันธ์เพื่อให้จัดตั้งกองทุนครบถ้วนโดยเร็วที่สุด