Breadcrumbs Image

“จุรินทร์”ตรวจเยี่ยมน้ำท่วมที่โรงพยาบาลพิมาย ย้ำโรงพยาบาลทุกแห่งป้องกันความเสียหายให้ดีที่สุด ไม่ต้องคำนึงค่าใช้จ่าย เป็นที่พึ่งประชาชนเจ็บป่วยเต็มที่

  • หน้าหลัก
  • ข่าวเพื่อมวลชน
  • “จุรินทร์”ตรวจเยี่ยมน้ำท่วมที่โรงพยาบาลพิมาย ย้ำโรงพยาบาลทุกแห่งป้องกันความเสียหายให้ดีที่สุด ไม่ต้องคำนึงค่าใช้จ่าย เป็นที่พึ่งประชาชนเจ็บป่วยเต็มที่


 

วันนี้ (23ตุลาคม 2553)ที่ โรงพยาบาลพิมาย จ.นครราชสีมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งวางแผนแก้ปัญหาการจัดบริการประชาชน  โดยได้มอบทายาแก้คัน ยาฆ่าเชื้อรา อย่างละ 1,000ตลับ ยาทากันยุง 1,008ขวดยาจุดกันยุง 360กล่อง ผ้าอนามัย 4,480ชิ้น ที่ได้รับการสนับสนุนจาก อย.เพื่อนำไปแจกผู้ประสบภัย  และมอบถุงยังชีพให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลฯจำนวน 236 ชุดด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลถูกน้ำท่วม 5 แห่ง ได้แก่ รพ.พิมาย รพ.มหาราชนครราชสีมา  รพ.ชัยภูมิ รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และโรงพยาบาลเซนต์แมรี่ นครราชสีมา สำหรับรพ.พิมายสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับดี สามารถสกัดกั้นน้ำท่วมได้ และยังเปิดให้บริการผู้ป่วยได้  ผู้บริหารมีการเตรียมการรับมือได้อย่างดี   
ปัญหาที่ต้องดำเนินการขณะนี้ก็คือ 1.ระบบการส่งต่อผู้ป่วย ซึ่งเดิมเคยส่งที่รพ.มหาราช นครราชสีมา ได้เปลี่ยนส่งที่รพ.ขอนแก่น แต่เนื่องจากเส้นทางไปขอนแก่นมีน้ำท่วม ได้เปลี่ยนส่งต่อที่รพ.บุรีรัมย์ 2.การจัดการด้านโครงสร้างอาคาร และระบบสุขาในโรงพยาบาล เนื่องจากห้องสุขาที่อาคารผู้ป่วยชั้นล่างใช้การไม่ได้ ได้จัดรถสุขาเคลื่อนที่ไปบริการ 3.เรื่องการสัญจร จังหวัดนคราชสีมาได้จัดส่งเรือช่วยรับส่งผู้ป่วย 3 ลำ
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ได้เน้นย้ำนโยบายการจัดบริการในช่วงประสบภัยน้ำท่วม 5 เรื่อง  คือ 1.การรักษาฟรีในพื้นที่น้ำท่วมโดยไม่มีข้อแม้ ผู้ป่วยสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้าใช้บริการที่ใดก็ได้ ใครบัตรประชาชนหาย ก็รับบริการฟรีโดยไม่มีข้อแม้เช่นกัน 2.ให้จัดบริการรับส่งผู้ป่วย การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกตรวจรักษาประชาชนนอกโรงพยาบาล ซึ่งที่อ.พิมาย เปิด 4 จุด มีประชาชนรับบริการวันละประมาณ 500 คน 3. การบริการดูแล 4 กลุ่มพิเศษได้แก่ ผู้ป่วยเรื้อรัง เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ให้โรงพยาบาลทุกแห่งเปิดสายด่วน 1669รับแจ้งประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้จัดระบบการประสานหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินในพื้นที่ไปรับถึงบ้าน และให้เจ้าหน้าที่ออกค้นหาผู้ป่วย 4 กลุ่ม ดังกล่าวในกรณีฉุกเฉิน เพื่อรับมาดูแลอย่างปลอดภัย  4.ให้โรงพยาบาลทุกแห่งพยายามรักษาพื้นที่ ไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องคำนึงค่าใช้จ่ายเพื่อให้โรงพยาบาลสามารถเปิดให้บริการได้ ไม่เป็นภาระผู้ป่วย และ5.การดูแลด้านค่าใช้จ่ายด้านที่พักและอื่นๆให้เจ้าหน้าที่ที่ประสบภัยตามความเป็นจริง ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวล
   ด้านนายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรงพยาบาลพิมาย มีอาคารบริการทั้งหมด 5 อาคาร น้ำเริ่มท่วมวันที่ 20ตุลาคม 2553  ขณะนี้ระดับน้ำท่วมรอบๆ อาคารบริการสูง 60-100 เซนติเมตร ได้ย้ายเครื่องมือแพทย์ขึ้นชั้น 2ไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว วันนี้มีผู้ป่วยนอนรักษา 41ราย จากทั้งหมด 90เตียง ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 ราย  มี เจ้าหน้าที่ 271คน ร้อยละ 90ปฏิบัติงานได้แม้บางส่วนน้ำท่วมบ้าน  โดยโรงพยาบาลมีเวชภัณฑ์ ออกซิเจนเหลว สำหรับดูแลผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพียงพอใช้การได้ 2 เดือน           
สำหรับบริการผู้ป่วยฉุกเฉิน ได้ย้ายไปให้บริการชั่วคราวที่ห้องทันตกรรม ปริมาณผู้ป่วยจาก 150รายเหลือ 40รายต่อวัน ส่วนผู้ป่วยนอกทั่วไปลดจาก 400 - 500รายเหลือ 50รายต่อวัน  ส่วนผู้ป่วยหนักบางส่วนย้ายไปที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น โดยวานนี้ ส่งไป 5 ราย เป็นผู้ป่วย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อุบัติเหตุ ผู้ป่วยถูกงูเห่ากัด 1ราย   ขณะนี้โรงพยาบาลไม่สามารถรักษาผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัด  ได้วางแผนการส่งรักษาต่อที่ รพ บุรีรัมย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และรพ.ชุมชนที่อยู่รอบๆ เช่น บัวใหญ่ ประทาย  แต่มีปัญหาเรื่องการขนย้ายผู้ป่วย  เนื่องจากน้ำท่วมตลอดเส้นทาง ได้รับความร่วมมือจากกองทัพบกนำรถมาช่วยขนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลไปบริเวณหน้าตลาดแค เพื่อส่งขึ้นรถพยาบาลต่อไป
                ขณะนี้ รพ.พิมายได้ตั้งจุดบริการผู้ป่วยนอกโรงพยาบาล 4จุด ได้แก่ หน้าร้านนิวมอเตอร์ไบท์ ที่หน้าสหกรณ์การเกษตรพิมาย ตำบลสัมฤทธิ์และธารละหลอด ตำบลในเมือง มีผู้ป่วยรับบริการจุดละ ประมาณ 100คน ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า ผื่นคัน ไข้หวัด ทุกหน่วยจะมียาชุดน้ำท่วม ยาทาแก้คัน ยาฆ่าเชื้อรา บริการ                                                                  
        .....................            23 ตุลาคม 2553
 


   
   


View 12    23/10/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ