วันนี้ ( 26 ตุลาคม 2553) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้นายอนันต์ ปัญญารชุน ทูตองค์การยูนิเชฟ ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือและขอบคุณที่เป็นผู้นำที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนของประเทศไทย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการนำไอโอดีนมาแก้ปัญหาการขาดสารไอโอดีนของคนไทย ซึ่งปัจจุบันระดับไอคิวโดยเฉลี่ยของเด็กไทยต่ำกว่ามาตรฐานสากล โดยพบไอคิวเฉลี่ยอยู่ที่ 91 จุด ซึ่งไอคิวเฉลี่ยสากลอยู่ที่ 90-110 จุด ส่วนหญิงตั้งครรภ์พบการขาดสารไอโอดีนร้อยละ 60 มีผลร้ายแรงต่อทารกตั้งแต่ในครรภ์มารดาจนถึงอายุ 3 ปี และหญิงตั้งครรภ์ที่ขาดสารไอโอดีนจะทำให้ทารกมีพัฒนาทางสมองไม่เต็มที่ นอกจากนี้การเข้าถึงเกลือเสริมไอโอดีนคุณภาพของครัวเรือนไทยยังต่ำกว่าเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก

            

            

นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า ได้กำหนดมาตรการในการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน ในกลุ่มเสี่ยง 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. ให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งจ่ายยาเม็ดเสริมไอโอดีนให้หญิงตั้งครรภ์ที่ฝากครรภ์ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ทุกคน 2. การแก้ไขการขาดสารไอโอดีนในทารกแรกเกิด โดยตรวจฮอร์โมนต่อม ธัยรอยด์ทุกคนว่าผิดปกติหรือไม่หากพบผิดปกติให้รักษาทันที และ 3. กลุ่มเด็กเล็กและประชาชนทั่วไปส่งเสริมให้บริโภคเกลือเสริมไอโอดีน พร้อมกันนี้ตนได้ลงนามประกาศกระทรวง 4 ฉบับเรียบร้อยแล้ว โดยบังคับให้เกลือบริโภค น้ำปลา เกลือปรุงอาหาร และผลิตภัณฑ์ปรุงรส จะต้องใส่ไอโอดีนด้วย และให้เวลาโรงงานเตรียมการ 90 วัน หากไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดทางกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อให้เป็นตามนโยบายเพิ่มไอโอดีน เพิ่มไอคิว นายจุรินทร์ กล่าว

********************************** 26 ตุลาคม 2553



   
   


View 2       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ