กระทรวงสาธารณสุข จัดโครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัยจากสารเคมี เทิดพระเกียรติในหลวง 84 พรรษา โดยจะนำร่องตรวจคัดกรองสุขภาพเกษตรกรที่ใช้สารเคมี 840,000 คน และนำสมุนไพร รางจืด และหญ้านางแดง มาล้างพิษ พร้อมทั้งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รับรองตลาดกลางพืชผักปลอดสารพิษทั่วประเทศ  คาดเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม2553 เป็นต้นไป    

           ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการโครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย สมุนไพรล้างพิษ กายจิตผ่องใส เมื่อบ่ายวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2553) ว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย เพื่อปกป้องสุขภาพเกษตรกรให้ปลอดภัยจากการใช้สารเคมี ประชาชนได้บริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัย เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษาในปี2554 และส่งเสริมการใช้สมุนไพรพื้นบ้านล้างสารพิษในร่างกาย  ขณะนี้มีประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมประมาณ 13 ล้านกว่าคน ส่วนใหญ่ยังมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายทั้งผู้ใช้และผู้บริโภค  โดยผลการตรวจตัวอย่างผัก ผลไม้สดของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปี 2552 พบสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้าง ร้อยละ 28
ดร.พรรณสิริกล่าวว่า ตามโครงการนี้จะนำร่องในปีงบประมาณ 2554 มีเป้าหมายตรวจคัดกรองสุขภาพเกษตรกร 840,000 คนทั่วประเทศ โดยให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล 840 แห่ง ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข84,000 คน ค้นหาเกษตรกรที่มีความเสี่ยงและตรวจเลือดโดยใช้ชุดตรวจสารพิษในเลือดภาคสนามผลิตโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รู้ผลเร็วภายใน 10 นาที หากพบว่าเกษตรกรมีสารพิษในเลือดในระดับที่ไม่ปลอดภัย จะนำสมุนไพรพื้นบ้านมาใช้ถอนพิษ ในเบื้องต้นมี 2 ตัวคือ รางจืด และหญ้านางแดง ซึ่งมีผลงานวิจัยว่าสามารถกำจัดพิษได้ผล หาได้ง่ายตามหมู่บ้านต่างๆ ใช้งบประมาณดำเนินการ 12 ล้านบาทเศษ    
นอกจากนี้ได้ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมีศูนย์เครือข่าย 12 แห่งทั่วประเทศ พัฒนาระบบการตรวจสอบสารพิษตกค้างในพืชผักและผลไม้สด ในตลาดกลางค้าส่งที่มีทั่วประเทศประมาณ 23 แห่ง แต่ขณะนี้ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานเพียง 2 แห่ง ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้บริโภคพืชผักผลไม้ที่ปลอดภัยมากขึ้น และให้กรมสุขภาพจิตจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีและคลายความวิตกกังวลให้กับเกษตรกรที่มีปัญหาด้านต่างๆ ด้วย   คาดว่าจะเปิดตัวโครงการในเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เป็นปัญหาระดับชาติ พิษมีทั้งชนิดเฉียบพลัน เช่นปวดศีรษะ แน่นหน้าอก มองเห็นภาพลางเลือน อาเจียน ปวดท้อง และชนิดเรื้อรัง โดยพิษสะสมในร่างกายแสดงอาการภายหลังที่อันตรายที่สุดคือโรคมะเร็ง สารเคมีเข้าสู่ร่างกาย 3 ทางคือทางปาก การหายใจสูดสารเคมีขณะฉีดพ่น และจากการสัมผัส สารเคมีที่ใช้มากที่สุดคือกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต ร้อยละ58 รองลงมาคือ กลุ่มพาราควอทร้อยละ 31 และกลุ่มคาร์บาเมต ร้อยละ22  ในปี 2552 มีการนำเข้าสารเคมี 118,151 ล้านตัน จังหวัดที่เกษตรมีอัตราป่วยจากสารเคมีมาก 5 อันดับ ได้แก่กำแพงเพชร อุทัยธานี ตราด สุโขทัย เชียงราย ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุดได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    คาดหวังว่าโครงการนี้จะทำให้ระบบการผลิตของเกษตรกรไทย พัฒนาสู่ระบบเกษตรอินทรีย์มากขึ้น และใช้สารเคมีน้อยลง
 ******** 15 พฤศจิกายน 2553


   
   


View 10    15/11/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ