สธ.ย้ำ 24 จังหวัด รับมือฝนหนักถึงหนักมากใน 3 วันนี้ ประเมินเสี่ยง รพ. สำรวจกลุ่มเปราะบาง เผยยาคงคลังยังเพียงพอ
- สำนักสารนิเทศ
- 0 View
- อ่านต่อ
คาดรู้ผล 2-3 วันนี้ เตรียมเปิดศูนย์ให้คำปรึกษาผู้ที่มีปัญหาท้องไม่พึงประสงค์ ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1323 ภายในสัปดาห์นี้ ย้ำมาตรการป้องกันดีที่สุด
วันนี้ (30 พฤศจิกายน 2553) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องคลินิกทำแท้งว่า เรื่องคลินิก ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ในขณะนี้ เพราะหลังจากปรากฏเป็นข่าวแล้ว คลินิกทั้งหมดปิดตัวเงียบ จะต้องเฝ้าระวังระยะหนึ่ง ในส่วนการตรวจสอบใบรับรองการเกิดของโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น และศูนย์อนามัยแม่และเด็กขอนแก่น ของเด็ก 3 คน ได้ตรวจสอบแล้วและได้รับรายงานเบื้องต้นจากอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพว่า ยังไม่พบหลักฐานที่ยืนยันว่าทางศูนย์อนามัยฯขอนแก่นและโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีการทำเอกสารปลอมขึ้นมา อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ขอให้อธิบดีกรมอนามัย ในฐานะผู้ดูแลศูนย์อนามัยขอนแก่นได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว น่าจะรายงายผลได้ภายใน 2-3 วันนี้
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องการทำแท้ง ได้ขอให้กรมสุขภาพจิตเร่งรัดดำเนินการจัดผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาผู้ที่มีปัญหาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ โดยที่ผ่านมาพบตัวเลขผู้ที่ท้องแล้วทำแท้ง ประมาณร้อยละ 50 เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี พบได้ปีละประมาณ 1.2 แสนคน จึงเป็นประเด็นที่อยากเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ตรงจุดในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ดีที่สุดคือ 1.รู้จักการปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่เสียความสัมพันธ์ที่ดี 2.หากมีเพศสัมพันธ์ ก็จะต้องรู้จักป้องกันตนเอง และ3.ถ้าตั้งครรภ์ จะมีการให้คำปรึกษาว่าจะมีแนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องตามหลักศีลธรรมและไม่ผิดกฎหมาย คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะสามารถเปิดให้บริการศูนย์ให้คำปรึกษาฯแก้ผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้ โดยจะใช้หมายเลขโทรศัพท์ 1323 ที่มีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในเรื่องการรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้มีการณณรงค์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการกระจายถุงยางอนามัยไปยังกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เช่น กลุ่มผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งกระจายได้อย่างทั่วถึงพอสมควร ปีละประมาณ 20 ล้านชิ้น
ในส่วนของกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่นิยมใช้ถุงยางอนามัยนั้น คงต้องมีการรณรงค์ทำความเข้าใจถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าของการป้องกัน เพราะจะช่วยป้องกันปัญหาที่จะตามได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การป้องกันการตั้งครรภ์ ที่จะนำไปสู่การเกิดปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคมในอนาคต รวมทั้งปัญหาตนเองที่จะอยู่ร่วมในสังคม และปัญหาเรื่องการศึกษาด้วย ส่วนในเรื่องการสอนเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน ขณะนี้มอบหมายให้อธิบดีกรมสุขภาพจิต ประสานการทำงานร่วมกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้ว
***************************************** 30 พฤศจิกายน 2553
View 2
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ
