วันนี้(3 ธันวาคม 2553)ที่โรงแรมมิราเคิล กทม. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนนโยบายด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในพ.ศ. 2554 แก่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ จำนวน 320 คน เพื่อจัดบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพของสถานพยาบาลทุกระดับ ดำเนินการควบคู่กันไปกับการรักษาแผนปัจจุบันเพื่อเป็นทางเลือกของประชาชนในการดูแลสุขภาพและเข้าถึงบริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในด้านนโยบายการสนับสนุนการแพทย์ทางเลือก ล่าสุดนี้ ได้สนับสนุนให้แพทย์แผนจีนมีใบประกอบโรคศิลปะได้ คาดว่าหลังจากที่พระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีแพทย์แผนจีนที่มีใบประกอบโรคศิลปะจำนวน 320 คน
สำหรับนโยบายด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งให้การสนับสนุนควบคู่กับสมุนไพรไทย ให้มีการนำสมุนไพรไทยมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม หรือยา ที่จะใช้ควบคู่ไปกับยาแผนปัจจุบัน ตามนโยบายรักษาฟรี 48 ล้านคน ใช้บัตรประชาชนใบเดียว ในปี 2554 นี้ ได้เพิ่มงบประมาณรายหัวสนับสนุนการแพทย์แผนไทยอีก 3 เท่าตัว จากเดิม 2 บาท เป็น 6 บาท นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มีการใช้ยาแผนไทยมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนี้มียาแผนไทยที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว19 รายการ และกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯได้เสนอยาแผนไทยให้กรมบัญชีกลางพิจารณาอีก 533 รายการ ประกอบด้วยยาเดี่ยว 64 รายการ ยาตำรับ 469 รายการ รวมทั้งยาที่ปรุงสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประเภทเวชกรรมไทยหรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า การแพทย์แผนไทยขณะนี้ มีการพัฒนาเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนด้านการแพทย์แผนไทย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้บรรจุแพทย์แผนไทยที่จบปริญญาตรีซึ่งทั่วประเทศมีประมาณ 1,000 คน ไปปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)โดยในปี 2553 ได้บรรจุไปแล้ว 95 คน ในปี 2554 ตั้งเป้าจะบรรจุอีก 150 คน นอกจากนี้ยังมีแพทย์พื้นบ้านที่ขึ้นทะเบียนไว้ 50,295 คน เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการรักษาโรค 20 ปีขึ้นไปจำนวน 10,255 คน มีใบประกอบโรคศิลปะแล้ว 36 คน คาดว่าในปี 2554 จะมีหมอพื้นบ้านขึ้นทะเบียนใบประกอบโรคศิลปะได้อีก 186 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการรักษาด้วยยา 103 คน ที่เหลือเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านการนวด การดูแลแม่และเด็ก โรคสตรี ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับบริการอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
********************************* 3 ธันวาคม 2553
View 16
03/12/2553
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ