เร่งอย.ออกประกาศให้ติดฉลากรวมทุกกระเช้าของขวัญ ระบุรายการสินค้า ราคา และวันหมดอายุ คาดประกาศได้ภายในกลางเดือนธันวาคมนี้

          วันนี้ (3 ธันวาคม 2553) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และเจ้าหน้าที่จากหน่วยเคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัยด้านอาหาร อย.  ตรวจเยี่ยมกระเช้าของขวัญปีใหม่ ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาติวานนท์ เพื่อให้ความเชื่อมั่นและแนะนำประชาชนในการเลือกกระเช้าปีใหม่อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
          นายจุรินทร์กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ คนไทยให้ความนิยมในการซื้อกระเช้าของขวัญ หรือสินค้าทั้งของสด ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง เป็นต้น เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ที่เคารพนับถือ กระทรวงสาธารณสุข และอย. ให้ความสำคัญกับนโยบายในการให้ความคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งต้องยอมรับว่ากระเช้าของขวัญปีใหม่เป็นสินค้าที่มีความแตกต่างจากสินค้าทั่วไป คือมีการรวมสินค้าหลายอย่างไว้ในชุดเดียวกัน    ลักษณะเป็นการขายพ่วง ผู้ซื้อไม่สามารถแยกส่วนได้ถ้าจัดเป็นกระเช้าสำเร็จรูปมาเรียบร้อยแล้ว    ขณะเดียวกันผู้ซื้อก็เลือกสินค้าไม่ได้ ผู้รับก็เลือกไม่ได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเข้ามาดูแลเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่บรรจุในกระเช้า มีคุณภาพและถูกกฎหมาย
          นายจุรินทร์กล่าวว่า ได้ให้ อย. และสำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศ รณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ที่จำหน่ายสินค้า หรือกระเช้าของขวัญ และให้ติดตามตรวจสอบให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบ กฎหมายและประกาศของกระทรวงสาธารณสุขในการคุ้มครองผู้บริโภคดังนี้ ประการที่ 1 สินค้าที่นำมาใส่ในกระเช้า ต้องเป็นสินค้าถูกกฎหมาย เช่นถ้าเป็นอาหาร ยา เครื่องสำอาง จะต้องผ่านอย. ไม่ใช่เป็นสินค้าผิดกฎหมายแล้วมารวมอยู่ด้วยกัน 2. ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ อย่างน้อยที่สุดเรื่องวันหมดอายุ จะต้องไม่ยัดเยียดสินค้าที่ใกล้วันหมดอายุ หรือบางกรณีนำสินค้าที่หมดอายุแล้วมาซ่อนไว้ของในกระเช้า ทำให้ผู้ซื้อมองไม่เห็น ผู้รับก็ได้รับสินค้าที่หมดอายุแล้ว ฉะนั้นเรื่องวันหมดอายุ จะขอความร่วมมือเบื้องต้นก่อนว่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ขณะเดียวกันจะต้องมีการดูเรื่องคุณภาพ และราคาด้วย
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ได้ให้อย.เร่งออกเป็นประกาศกำหนดว่าในการที่จะขายสินค้าเป็นกระเช้าจะต้องมีฉลากรวม ระบุว่าในกระเช้ามีรายการสินค้าใดบ้าง ราคาเท่าไร แต่ละรายการมีวันหมดอายุเมื่อไร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะผู้บริโภคไม่สามารถแกะกระเช้าไล่ดูแต่ละรายการสินค้าได้ ทำให้ถูกยัดเยียดในสิ่งที่บางครั้งไม่ได้อยากซื้อ นอกจากนั้นจะขอความร่วมมือจากทุกห้างสรรพสินค้าและผู้จำหน่ายด้วยว่า จะต้องไม่ยัดเยียดสินค้าที่ไม่มีคุณภาพแม้ว่าจะไม่หมดอายุก็ตาม เช่นสินค้าที่ไม่ขายไม่ได้ ไม่มีผู้ซื้อแล้ว เหลือล้นสต๊อกแล้วนำมายัดเยียดใส่ในกระเช้า
ประเด็นสำคัญที่สุด นอกจากจะต้องมีฉลากรวมแล้ว ในเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนอย่างน้อย 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 คือการจัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับสินค้าอื่นในกระเช้า ซึ่งโดยกฎหมายทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่าเท่ากับเป็นการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ่วงกับสินค้าอย่างอื่น เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะไม่ใช่แค่การขอความร่วมมือแต่เป็นการทำผิดกฎหมาย ประการที่ 2 ก็คือ เรื่องของการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปรวมบรรจุอยู่ในกระเช้าสินค้าอย่างอื่น ก็จะมีปัญหาเรื่องของเวลาจำหน่ายด้วย เพราะการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีเวลาที่กำหนดไว้ว่าจำหน่ายได้ในช่วงเวลาใดบ้าง ดังนั้นถ้าจะจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ขอให้แยกส่วนจำหน่าย และปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายก็จะไม่มีปัญหาตามมา
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า เมื่ออย.ออกเป็นประกาศแล้ว ห้างสรรพสินค้าหรือผู้จำหน่ายกระเช้าของขวัญที่ไม่ปฏิบัติตามก็จะมีความผิด มีบทลงโทษตามกฎหมาย จะเร่งให้ออกประกาศให้เสร็จไม่เกินกลางเดือนธันวาคมนี้ทั้งนี้ จากการตรวจกระเช้าสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี พบว่า มีแถบฉลากรวม ได้แก่ รายการสินค้า ราคา และวันหมดอายุของสินค้า ซึ่งต่อไปทุกกระเช้าสินค้าจะต้องมีฉลากรวม ซึ่งจะได้ขอความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและไม่เสียชื่อผู้ขายด้วย
 
 ****************************** 3 ธันวาคม 2553


   
   


View 9    03/12/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ