สธ. ย้ำเตือนประชาชน อย่าเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุเอง ชี้อาจเพิ่มอันตรายผู้บาดเจ็บ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนประชาชนที่พบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร ขอให้โทรแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทีมแพทย์กู้ชีพ และให้รอทีมแพทย์เป็นผู้ดำเนินการช่วยผู้บาดเจ็บ อย่าใจร้อนเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเอง เพราะอาจเพิ่มอันตรายให้ผู้บาดเจ็บมากขึ้น เนื่องจากขาดความรู้ในการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี เช้าวันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2550) นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจชาวโปแลนด์ 2 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถบัสนำเที่ยวพุ่งชนรถกระบะก่อนจะพลิกคว่ำ หลังกลับจากท่องเที่ยวที่ปางช้าง เมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 14 ราย เป็นชาวต่างชาติ 11 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย และมีผู้บาดเจ็บคนไทย 3 ราย โดยในจำนวนนี้ มีนักท่องเที่ยวชาวโปแลนด์ ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ 2 ราย รายแรกชื่อ นางสาวมาเรีย สโตวโคสกา (Miss Maria Stowlkouska ) อายุ65 ปี และรายที่ 2 นายปริลอค เปคแลนด์ (Mr. Prilok Pcland) อายุ 66 ปี กระดูกเชิงกรานแตกทั้ง 2 ราย ขณะนี้นอนรักษาตัวที่ตึกอุบัติเหตุ 1 อาการปลอดภัยแล้ว กระดูกเชิงกรานที่แตกไม่มีอันตราย ไม่ต้องผ่าตัด การดูแลรักษาในขั้นแรกให้นอนพักอย่างเต็มที่ ขั้นต่อไปจะทำกายภาพบำบัดฟื้นฟู ให้ลุกเดินโดยใช้ไม้ค้ำยัน ซึ่งแพทย์จะเริ่มในวันนี้ แพทย์เจ้าของคนไข้คาดว่าจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้เร็วๆ นี้ ได้สั่งการให้แพทย์ดูแลอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด นายแพทย์มงคล กล่าวว่า การมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บในวันนี้ เพื่อประเมินระบบการทำงานของทีมกู้ชีพ ในการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลนครพิงค์ ภายหลังได้รับแจ้งเหตุทางหมายเลข 1669 ว่ามีการบริหารจัดการดีมากน้อยเพียงใด เพื่อนำมาปรับปรุงระบบเพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชน ได้รับรายงานว่าทีมกู้ชีพเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุรวดเร็ว ประมาณ 15 นาที อย่างไรก็ดี ส่วนที่เป็นกังวลในเรื่องการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร พบว่าที่ผ่านมาประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์มักใจร้อน ช่วยกันเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ก่อนที่รถทีมแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินไปถึง ซึ่งเป็นวิธีการที่เพิ่มความเสี่ยงอันตรายให้กับผู้บาดเจ็บมากขึ้น เนื่องจากขาดความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธี และไม่มีเครื่องมือช่วยเหลือหรือดูแลระหว่างนำส่ง จึงอยากทำความเข้าใจประชาชนทั่วประเทศว่า หากพบผู้บาดเจ็บ ขอให้รอทีมแพทย์กู้ชีพของสถานพยาบาล ซึ่งมีความรู้และมีเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ ที่จะให้การดูแลผู้บาดเจ็บอย่างปลอดภัย โดยขณะนี้ทีมกู้ชีพฉุกเฉินมีครอบคลุมทุกจังหวัด เกือบ 4000 ทีม มีแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานการช่วยเหลือกว่า 30,000 คน ************************** 22 กุมภาพันธ์ 2550