ผู้ป่วยโรคเอดส์ สนองนโยบายยูเอ็นเอดส์ เผยไทยทำก้าวหน้าหลายเรื่อง พร้อมช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาเต็มที่

          วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2554) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากนายมิเชล ซิเดเบ (Mr.Michel Sidibe) ผู้บริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอดส์(UNAIDS) เข้าพบที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า ในการเข้าพบครั้งนี้ ผู้บริหารยูเอ็นเอดส์ได้ชื่นชมประเทศไทยในความเป็นผู้นำ ที่สามารถดำเนินมาตรการในการป้องกัน การรักษา การดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าไทยเป็นประเทศต้นแบบ นอกจากนี้ได้มีการนำเสนอยุทธศาสตร์ใหม่ของยูเอ็นเอดส์ ที่จะดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 - 2558 ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ศูนย์ ได้แก่ 1.ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิดขึ้น 2.ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ และ3.ไม่มีการกีดกันหรือแบ่งแยกผู้ป่วยโรคเอดส์ออกจากสังคม 

       นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า  ประเทศไทยยินดีที่จะสนับสนุนยุทธศาสตร์ดังกล่าว และจะเข้าร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในการเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้   ทั้งนี้ประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ไปหลายเรื่อง ได้แก่ มาตรการป้องกัน ซึ่งได้มีการรณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อลดปัญหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยทุกปีจะมีการแจกจ่ายถุงยางอนามัยไปพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 20 ล้านชิ้น นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ติดยาเสพติดและใช้เข็มฉีดยา กระทรวงสาธารณสุขให้เอาเข็มเก่า มาแลกเข็มใหม่ได้ ซึ่งไม่ได้เป็นการสนับสนุนให้มีการใช้ยาเสพติด แต่เป็นวิธีการลดการติดเชื้อเอชไอวีจากการใช้เข็มร่วมกัน   นอกจากนี้ยังได้เสนอพระราชบัญญัติการอนามัยเจริญพันธุ์ ที่ระบุให้ต้องมีการสอนเพศศึกษาในสถานศึกษาทุกระดับด้วย

          สำหรับในเรื่องของการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ประเทศไทยนับว่ามีความก้าวหน้ามาก ได้แก่   การขยาย ซีแอลยาต้านไวรัสเอดส์จนหมดอายุสิทธิบัตร นอกจากนี้ยังมีมาตรการให้การดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ ให้สามารถเข้าถึงยาได้ทันที    หากระดับของซีดีโฟร์ (CD4) หรือเซลล์เม็ดเลือดขาว ลดลงเหลือ 350 ต่อ 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ลดลงเหลือ 200 ต่อ 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร ซึ่งเป็นมาตรการลดการเสียชีวิตของผู้ป่วย หรือช่วยให้ผู้ป่วยเข้าสู่การรักษาที่เร็วขึ้น   ส่วนเรื่องของการไม่แบ่งแยกผู้โรคเอดส์ออกจากสังคม ประเทศไทยได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิมนุษยชนด้านเอดส์ ซึ่งจะเป็นกลไกที่จะมาสนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคเอดส์อยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างปกติและเป็นรูปธรรมมากขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับความร่วมมือที่ไทยจะร่วมมือกับยูเอ็นเอดส์นั้น ไทยจะให้การช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนาด้านเอดส์อย่างเต็มที่ เพราะไทยมีศักยภาพและมีองค์ความรู้ในการแก้ปัญหาทั้งด้านป้องกัน การรักษาและการอบรมพัฒนาด้านวิชาการ ซึ่งในปี 2554 นี้จะมีการอบรมวิชาการแก่เจ้าหน้าที่ของประเทศลาว 3 รุ่น ที่เวียงจันทร์ จำปาสัก และที่ปากเซ นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็น 1 ใน 22 ประเทศของผู้บริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ    และไทยยังเคยเป็นประธานผู้บริหารยูเอ็นเอดส์ด้วย      ซึ่งตั้งแต่ ปี 2553 เป็นต้นมา ไทยได้บริจาคเงินเข้าโครงการปีละ 1 แสนเหรียญสหรัฐ จากที่ผ่านมาไทยเคยบริจาคให้ 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ

**************15 กุมภาพันธ์ 2554



   
   


View 9    15/02/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ