จากความผิดพลาดทางการแพทย์ ในปี 49 ให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์  เบื้องต้นคาดเกิดจากความคลาดเคลื่อน ของข้อมูลที่นำมาคำนวณ 

          วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2554) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการเผยข้อมูลปรากฏในเฟสบุ๊คระบุว่า มีผู้ที่เข้ารับการรักษาพยาบาลและเสียชีวิตจากความผิดพลาดทางการแพทย์ในปี 2549 จำนวนถึง 65,000 คน และอ้างแหล่งที่มาข้อมูลเกี่ยวพันกับสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า ได้ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะทำงาน 1 ชุด ตรวจสอบข้อเท็จจริงทางวิชาการทั้งหมดว่าตัวเลขที่แท้จริงเป็นอย่างไร ให้เสร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อชี้แจงให้สาธารณชนให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามเท่าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าเกิดจากตัวเลขบางตัวที่นำมาใช้คำนวณ มีความคลาดเคลื่อน

ด้าน นายแพทย์ศุภกิจ  ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) กล่าวว่า ข้อสังเกต การนำข้อมูลไปวางบนเฟสบุ๊ค โดยจำนวนการเสียชีวิต65,000 คนที่บอกว่าเกิดความผิดพลาดทางการแพทย์ ผู้นำข้อมูลไปวางบนเฟสบุ๊ค นำข้อมูลจำนวนคนไข้ที่ผิดไปใช้ในการคำนวณ โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากการประชุม ที่มีแพทย์ท่านหนึ่งที่เคยทำงานที่ สนย.ได้นำเสนอว่า ได้ทบทวนข้อมูลจากเวชระเบียนของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 2 แห่ง พบว่าคนไข้ที่นอนรักษาในโรงพยาบาล ร้อยละ 10 จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ และในร้อยละ 10 ของผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์จะเสียชีวิต โดยครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตมาจากสาเหตุซึ่งป้องกันได้ โดยแพทย์ดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้คำนวณตัวเลขว่าเท่ากับ 65,000 คนแต่อย่างใด

ผู้ที่วางข้อมูลการเสียชีวิตของผู้ป่วยบนเฟสบุ๊คครั้งนี้ ป็นการนำตัวเลขที่ไม่ถูกต้องมาใช้ ทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยใช้จำนวนคนไข้ในที่เข้านอนโรงพยาบาลในปี 2551 จำนวน 13 ล้านครั้ง มาใช้ ซึ่งคำว่าครั้งในที่นี้หมายถึง 13 รายโรค และไม่ใช่การมานอนโรงพยาบาล 13 ล้านครั้ง   ซึ่งผู้ที่นำไปคำนวณไม่มีความเข้าใจและไม่ได้มาสอบถาม สนย. ซึ่งจำนวนผู้ที่เป็นคนไข้ใน ในปี 2551 มีเพียง 6.3 ล้านครั้ง ครั้งคือรายผู้ป่วย แต่ในการลงรหัสโรคของเจ้าหน้าที่ จะต้องลงข้อมูลทุกโรค เช่นคนไข้ป่วยมา 1 ครั้ง ป่วยเป็น 3 โรคก็จะลง 3 รหัส เมื่อคนที่นำข้อมูลไปวางบนเฟสบุ๊คนำจำนวน 13 ล้านครั้งไปคำนวณว่าร้อยละ 10 เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เท่ากับ 1.3 ล้าน ร้อยละ 10 ของคนเกิดอาการไม่พึงประสงค์เสียชีวิต คือ 1.3 แสน และครึ่งหนึ่งของ 1.3 แสนป้องกันได้ ก็คือ 65,000 คน ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง

                 

ดังนั้นการที่สรุปว่าเสียชีวิต 65,000 คนจากโรคที่ผิดพลาดทางการแพทย์ มีข้อสังเกต 3 ข้อที่ทำให้ข้อมูลนี้เกิดความคลาดเคลื่อนก็คือ 1.คนไข้ในร้อยละ 10 เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ร้อยละ 10 ของคนเกิดอาการไม่พึงประสงค์เสียชีวิต และครึ่งหนึ่งป้องกันได้ เป็นการใช้ข้อมูลเพียงแค่ 2 โรงพยาบาล ซึ่งจะใช้เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลทั่วประเทศไม่ได้ ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลก่อนปี 2549 แน่นอน เพราะแพทย์ผู้นี้ไปนำเสนอข้อมูลในการประชุมปี 2549 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ยังมีระบบประกันคุณภาพยังไม่ได้มากพอ แต่ขณะนี้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุข ผ่านการประเมินคุณภาพเกินครึ่งแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ในขั้นที่กำลังพัฒนาให้ผ่านเกณฑ์ต่อไปซึ่งจะมีการควบคุมเรื่องความปลอดภัยในระบบด้วย จึงไม่สามารถใช้ข้อมูลก่อนปี 2549 แล้วสรุปเป็นสถานการณ์เทียบกับปัจจุบันได้                              

2.จำนวน 13 ล้านครั้งแล้วนำไปคำนวณเป็นตัวเลขที่เข้าใจผิด เพราะเป็น 13 ล้านครั้งรายโรค แต่คนไข้ในจริงๆ มีเพียง 6.3 ล้านครั้งเท่านั้น ดังนั้นหากเชื่อว่าสิ่งที่แพทย์ผู้นี้กล่าวถูกต้องและใช้ในปัจจุบันได้ จำนวนก็จะน้อยลงกว่า 65,000 คนมาก นอกจากนี้ การที่แพทย์ผู้นี้ได้กล่าวว่าครึ่งหนึ่งของผู้มีอาการไม่พึงประสงค์เสียชีวิตจากสาเหตุที่ป้องกันได้ซึ่งมีหลายสาเหตุ ไม่ได้บอกว่าเกิดจากความผิดพลาดทางการแพทย์ ดังนั้นการที่ผู้นำข้อมูลไปลงเฟสบุ๊คกล่าวว่าโดยใช้ภาษาว่าเกิดจากความผิดพลาดทางการแพทย์ จะทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าเสียชีวิตจากความผิดพลาดที่แพทย์เป็นผู้กระทำ จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า ผู้เสียชีวิต 65,000 คนต่อปีมาจากความผิดพลาดทางการแพทย์ ซึ่งคณะทำงานที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้ง จะได้เชิญแพทย์ดังกล่าวพร้อมเอกสารวิชาการที่ได้นำเสนอนั้นมีรายละเอียดอย่างไร เพื่อนำมาข้อมูลทั้งหมดมาประมวลอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยขณะนี้ได้ส่งจดหมายอิเลคทรอนิกส์ข้อสังเกตดังกล่าวให้ผู้ที่ลงเฟสบุ๊คทราบแล้ว

สำหรับมาตรการดำเนินการกับเพสบุ๊คของผู้ที่เผยแพร่นั้น นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การไปขอให้ถอดข้อมูลจากเฟสบุ๊ค โดยที่ยังไม่ได้สอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างทั้งหมด อาจทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น ในเบื้องต้นระหว่างที่คณะทำงานดำเนินการในช่วง 1 สัปดาห์นี้ กระทรวงสาธารณสุข จะนำเสนอข้อมูลขึ้นเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับข้อสังเกตของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ให้สาธารณชนรับทราบ อาจเพิ่มเติมข้อมูลในเรื่องของอาการไม่พึงประสงค์ โดยข้อเท็จจริงอาจเป็นไปตามการดำเนินการของโรคบางโรค หรือบางกรณีอาจเกิดจากความประมาท ซึ่งต้องดูในรายละเอียดประกอบด้วย

 **************************************** 15 กุมภาพันธ์ 2554


   
   


View 9    15/02/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ