กระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนประชาชนอย่าชะล่าใจไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้สูงอายุ หากมีอาการไข้หวัดใหญ่ต้องพบแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการดูแล ป้องกันเสียชีวิต เผยขณะนี้ในปีนี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไปหากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ให้หยุดพักงาน หยุดเรียนจนกว่าจะหายป่วย และไม่มีไข้โดยไม่ต้องทานยาลดไข้แล้วอย่างน้อย 1 วัน หากไข้ไม่ลดลงภายใน 2 วัน ต้องรีบพบแพทย์ 

                    จากกรณีที่มีข่าวสาธารณสุขฮ่องกงรายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 ว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย เป็นผู้สูงอายุ วัย 64 ปี 71 ปี และ 83 ปี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโรคดังกล่าวในรอบเดือนที่ผ่านมาบนเกาะฮ่องกงรวมเป็น 17 ราย นั้น
          นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในภาพรวมทั้งไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งรวมถึงไข้หวัดใหญ่ 2009 มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถตรวจจับสัญญาณการหวนกลับมาระบาดของโรคได้อย่างทันท่วงที จากการประเมินโดยรวมพบว่า สถานการณ์โรคในปีนี้น้อยกว่าปี 2553 และไทยกำลังจะเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งจะพบโรคไข้หวัดใหญ่น้อยลง เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชอบอากาศเย็นมากกว่า      
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554-5 กุมภาพันธ์ 2554 สำนักระบาดวิทยา รายงานทั่วประเทศ และพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ประปราย ทั้งหมด 1,981 รายในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ในช่วงวันที่ 1 มกราคม -5 กุมภาพันธ์ จำนวน 55 ราย มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2 ราย ที่จังหวัดนราธิวาส มีโรคประจำตัวคือเป็นโรคเบาหวานทั้ง 2 ราย และจนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
อย่างไรก็ตามขอย้ำเตือนประชาชนว่าขณะนี้เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังมีอยู่ในประเทศ ประชาชนยังมีความเสี่ยงป่วย ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มต้องระมัดระวัง ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหอบหืด เบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หากมีอาการไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล บางคนอาจมีอาเจียน ท้องเสียด้วย ต้องรีบพบแพทย์ทันที ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลทุกแห่งมียาต้านไวรัสรักษาอยู่แล้ว
     นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง หากมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ขอให้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ให้หยุดพักงานหรือหยุดเรียนจนหายป่วย ไม่มีไข้แล้วอย่างน้อย 1 วันโดยไม่ต้องกินยาลดไข้ เพื่อไม่ไห้แพร่เชื้อสู่คนอื่น โดยเชื้อจะอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และมีโอกาสแพร่เชื้อได้มากสุด ในช่วงป่วย 3 วันแรก อาจแพร่ได้นานถึง 7 วัน ซึ่งอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่หากอาการไข้ไม่ลดลงภายใน 2 วัน ขอให้ไปพบแพทย์ตรวจรักษาทันที อย่านิ่งนอนใจ      
  ************************************  22 กุมภาพันธ์ 2554


   
   


View 9    22/02/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ