และระงับการโฆษณา จนกว่าราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ จะมีความเห็นที่เป็นทางการ พร้อมเตรียมออกกฎกระทรวงควบคุมการโฆษณาทางการแพทย์ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภค

            วันนี้ (22กุมภาพันธ์ 2554) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ได้หยิบยกกรณีจักษุแพทย์โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง  ออกมาเปิดเผยว่าใช้วิธีการนวดตาช่วยผู้ป่วยกำลังจะตาบอดกลับมามองเห็นได้เกือบปกติ มาหารือในที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และได้ข้อสรุปว่า เป็นกรณีของการนวดตา โดยใช้ในการรักษาต้อหินจากความดันลูกตาสูง ซึ่งโดยหลัก การกำหนดมาตรฐานด้านการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับตาเป็นหน้าที่ของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ แพทยสภา เป็นผู้กำหนด เท่าที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามตรวจสอบ พบว่าวิธีการรักษาด้วยวิธีการนวดตายังไม่มีผลงานวิจัยรองรับในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุขจะได้ประสานกับราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ ให้ทำความเห็นที่เป็นทางการต่อวิธีการรักษาต้อหินจากความดันลูกตาสูงด้วยวิธีการนวดตาออกมา ในฐานะเป็นผู้กำหนดมาตรฐานว่า วิธีการนี้เป็นวิธีที่ยอมรับได้หรือไม่
          นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามระหว่างที่รอความเห็นที่เป็นทางการจากราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้กำกับดูแลโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งการรักษาด้วยการนวดตานี้เป็นการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ได้รายงานว่าในช่วงเช้าวันนี้ ได้แจ้งระงับการรักษาด้วยวิธีนี้ชั่วคราวและระงับการโฆษณา จนกว่าราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ จะมีความเห็นที่เป็นทางการออกมา ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการให้การรักษาที่ได้มาตรฐาน ตามองค์กรที่เป็นทางการกำหนดให้กับผู้ป่วย
          ด้านนายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ขณะนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพกำลังดูการโฆษณาทางการแพทย์ทั้งหมด โดยคณะอนุกรรมการโฆษณาอาจจะขอร่างเป็นกฎกระทรวงสาธารณสุข คล้ายๆของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ก่อนจะโฆษณาต้องมาขออนุญาตก่อนว่าการโฆษณาเป็นการโอ้อวดเกินความเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่โฆษณาแล้วมีปัญหา กระทรวงสาธารณสุขต้องไปตามแก้ หรือมีปัญหามาถามว่าโฆษณาได้หรือไม่ อาจต้องมีการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น
 ************************************  22 กุมภาพันธ์ 2554


   
   


View 9    22/02/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ