รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าโครงการ อสม.อนาคตดี เรียนฟรีกับ กศน. ต่อยอดวุฒิการศึกษา อสม.กว่า 9 แสนคน ให้จบขั้นต่ำมัธยมศึกษาปีที่ 6   ตั้งเป้ารับปีนี้ 300,000 คน คาด อสม.ที่จบการ ศึกษา จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนสุขภาพชาวบ้าน ให้แข็งแรง สมองดี ไร้โรคคุกคาม

              วันนี้ (26 มีนาคม 2554) ที่จังหวัดพิษณุโลก ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ อสม.อนาคตดี ไปเรียนฟรีกับ กศน. ระหว่างผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดพิษณุโลก กระทรวง ศึกษาธิการ  กับประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก  ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อยกระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของ อสม. เข้าศึกษาต่อกับการศึกษานอกโรงเรียน จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมการเรียนการสอนของ อสม.ที่ศูนย์การศึกษาตำบลพรหมพิราม และเปิดโครงการเกษตรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย สมุนไพรล้างพิษ กายจิตผ่องใส ที่อำเภอวัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
                     
                     
ดร.พรรณสิริกล่าวว่า ในปี 2554  นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ    จัดทำโครงการ “อสม.อนาคตดีไปเรียนฟรีกับ กศน.”   เพื่อยกระดับการศึกษาให้ อสม. ที่ยังไม่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6   ซึ่งจากผลสำรวจล่าสุดพบว่ามีจำนวนมากถึง 966,690คนทั่วประเทศ หรือร้อยละ 96ของอสม.ที่มีทั่วประเทศทั้งหมด 1,005,633 คน เพื่อให้อสม.กลุ่มนี้ได้สมัครเข้าเรียนกับ กศน.ตามนโยบายเรียนฟรีของกระทรวง ศึกษาธิการทุกคน     ตั้งเป้าในปีการศึกษา 2554   จะเปิดรับสมัคร อสม. เข้าเรียนจำนวน 300,000คน      โดยกระทรวงสาธารณสุขได้อบรมครูประจำกลุ่ม อสม.จำนวน 1,750 คน ทำหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยงให้กับ อสม.
ทั้งนี้ ในระหว่างเรียนก็ทำงานไปด้วย อสม.สามารถนำความรู้และประสบการณ์ด้านสุขภาพที่ปฏิบัติและอาชีพมาเทียบโอนรายวิชาได้ จะเริ่มเปิดรับสมัครเข้าเรียนภาคที่ 1ในเดือนเมษายน 2554เป็นต้นไปโดยใช้เวลาเรียนเพียง 1-2 ปี ก็จะสำเร็จการศึกษาในแต่ละช่วงชั้น นอกจากนี้ ในปี 2554นี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้จัดโควตารับอสม.และบุตรที่มีวุฒิตามหลักเกณฑ์สามารถเข้าเรียนใน 4 หลักสูตรของสถาบันในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นขวัญกำลังใจได้แก่หลักสูตร พยาบาลศาสตร์ ระดับปริญญาตรี 4 ปี  และเรียนระดับอนุปริญญา 3 หลักสูตรได้แก่ สาธารณสุขชุมชน  ทันตาภิบาล และผู้ช่วยเภสัชกร   รวมจำนวน 380คน ทั้งนี้ยังมีโควตาสำหรับ อสม.และบุตร อสม.ในระบบรับกลาง จำนวน 150 โควต้า จึงขอเชิญชวนให้ อสม.และบุตร อสม. ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เข้าสมัครได้ระหว่างวันที่ 1-18 เมษายน 2554 นี้
ดร.พรรณสิริกล่าวต่อว่า อสม.ถือเป็นต้นทุนใหญ่ทางสังคมไทย ที่ประชาคมโลกให้การยอมรับว่ามีศักยภาพในการขจัดปัญหาสาธารณสุขในหมู่บ้านชุมชน เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในเรื่องวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดีที่สุด   มั่นใจว่าหากอสม.ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ มีวุฒิการศึกษาเพิ่มขึ้น จะเป็นแบบอย่างของคนในชุมชน และเป็นผู้จัดการแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนในหมู่บ้านที่ดูแลร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สนองนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการลดโรค สร้างสุขภาพดี ไม่เป็นโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง และประชาชนทุกพื้นที่ มีระดับสติปัญญาดี ได้อย่างแน่นอน   โดยที่จ.พิษณุโลก มีอสม.ทั้งหมด 16,485 คน ร้อยละ 93 จบการศึกษาระดับประถมศึกษา 15,346 คน 
                                 ******************** 26 มีนาคม 2554


   
   


View 10       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ