ปลัดสธ. ชี้ผลวิจัยพบเด็กไทยเสี่ยงแพ้โปรตีนนมวัวปีละ 24,000 คน ส่วนนมเต้าไร้ปัญหา

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รณรงค์แม่ลูกอ่อนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เด็กจะปลอดภัยจากโอกาสโรคแพ้โปรตีนนมวัว ชี้ผลการวิจัยต่างประเทศล่าสุดโรคแพ้โปรตีนนมวัวพบได้มาก คาดว่าในแต่ละปีเด็กไทยกว่า 24,000 คน มีโอกาสป่วยจากแพ้โปรตีนนมวัว ส่วนนมแม่ไม่มีปัญหา เด็กที่แพ้โปรตีนนมวัวจะวินิจฉัยยาก เช่น มีผื่นคัน เป็นหวัดไม่หาย หอบบ่อย อาเจียน ถ่ายเหลว ถ่ายมีเลือดปน ทำให้การเติบโตของเด็กหยุดชะงัก เช้าวันนี้ (6 มีนาคม 2550) ที่จังหวัดเชียงราย นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการสามัญ สมาชิกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุขใน 17จังหวัดภาคเหนือประจำปี 2550 ประมาณ 200 คน ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ สามารถนำไปพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้สูงอายุ เด็กวัยเตาะแตะ และผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การพัฒนางานของแม่บ้านสาธารณสุขแต่ละจังหวัด เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ด้วย นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าขณะนี้ความนิยมของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเป็นอาหารที่ดีที่สุดของทารก มีอัตราลดลงมากซึ่งเป็นเหมือนกันทั่วโลกไม่ถึงร้อยละ 50 ผลสำรวจล่าสุดของไทยในปี 2549 พบว่าในระยะ 6 เดือนแรก ซึ่งควรเป็นระยะที่เด็กควรได้รับนมแม่อย่างเดียว มีเด็กเพียงร้อยละ 15 ที่ได้รับนมแม่อย่างเดียวคือประมาณ 1 แสนกว่าคน จากเด็กไทยที่เกิดปีละประมาณ 8 แสนคน ที่เหลือจะได้อาหารอื่นร่วมด้วย เช่น นมผสม ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหาการแพ้โปรตีนนมวัว ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้ารณรงค์ให้หญิงไทยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือนให้ได้ร้อยละ 30 โดยจะให้สมาคมแม่บ้านสาธารณสุขร่วมรณรงค์ในชุมชนและโรงพยาบาลทุกระดับด้วย นางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข กล่าวว่า สมาคมแม่บ้านสาธารณสุขมีสมาชิกทั่วประเทศ 11,960 คน ช่วยดำเนินงานสนับสนุนงานของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนอยู่เย็น สังคมเป็นสุข ในปีนี้เน้นโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว สนองพระดำริพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ พระวรชายาฯ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยให้สมาชิกแม่บ้านสาธารณสุข รณรงค์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และให้เลี้ยงอย่างถูกต้องคือ 6 เดือนแรก ให้ได้นมแม่อย่างเดียวล้วนๆ ไม่นำนมผสมมาให้โดยไม่จำเป็น เพราะนมแม่คือหยดแรกของสายใยรัก ให้เด็กแรกเกิดอยู่กับแม่ทันทีและให้ดูดนมแม่ กระตุ้นต่อมผลิตน้ำนมให้ทำงานเร็วขึ้น เนื่องจากผลเสียของการไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พบว่าเด็กจะป่วยบ่อย และอาจจะเป็นโรคภูมิแพ้ ที่สำคัญคือ โรคแพ้โปรตีนนมวัว ที่กำลังเป็นปัญหาในปัจจุบัน นางจุรีภรณ์ กล่าวต่อไปว่า ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ได้รายงานผลการศึกษาวิจัยในประเทศต่าง ๆ พบปัญหาการแพ้โปรตีนนมวัวได้ร้อยละ 2-5 ในไทยซึ่งมีเด็กคลอดปีละ 8 แสนคน หากพบประมาณร้อยละ 3 เด็กก็จะมีโอกาสแพ้โปรตีนนมวัวได้ประมาณ 24,000 คน ครอบครัวที่มีประวัติภูมิแพ้ยิ่งมีโอกาสสูงขึ้น โดยการได้รับนมวัวในระยะที่ทารกไม่แข็งแรงคือระยะ 6 เดือนแรก จึงเสมือนเป็นการกระตุ้นวงจรการเกิดโรคภูมิแพ้ตั้งแต่วัยเด็ก แต่หากเด็กกินนมแม่ จะไม่มีปัญหาเพราะลูกไม่แพ้โปรตีนในนมแม่ จากงานวิจัยยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มว่าผู้หญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ควรดื่มนมวัวมากไป เพราะโปรตีนนมวัวสามารถเล็ดลอดผ่านทางนมแม่ได้ หากอยากได้แคลเซียมจากนมวัว ควรดื่มไม่เกินวันละ 2-3 แก้ว หรือกินอาหารที่มีแคลเซียมเช่น ปลาตัวเล็กตัวน้อย เต้าหู้ฯลฯ ได้ ****************************** 6 มีนาคม 2550