สธ. สอบสวนโรคกรณี เด็กนักเรียนระยอง 2 แห่ง ป่วยเป็นอุจจาระร่วงหลังร่วมงานกีฬาสี ส่วนใหญ่อาการป่วยไม่รุนแรง
- สำนักสารนิเทศ
- 740 View
- อ่านต่อ
บ่ายวันนี้(6 มิถุนายน 2554)กระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจากเชื้อแบคทีเรียอี-โคไลชนิดที่ทำให้เลือดออกและให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ว่าเบื้องต้นในภาพรวมเชื้อแบคทีเรียอี-โคไล มีทั้งหมด 5 ชนิด ซึ่งชนิดที่ 5 เป็นชนิดที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่มีการแพร่ระบาดและเป็นปัญหาที่สหภาพยุโรปขณะนี้ คือ โอ 104(O 104)และจะมีผลทำให้เม็ดเลือดแดงแตกส่งผลทำให้ไตวายด้วย การแพร่ระบาดติดต่อได้ทางอาหารและน้ำ
สำหรับในประเทศไทยจนถึงปัจจุบันนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันยังไม่เคยพบเชื้อแบคทีเรียอี-โคไล ชนิด โอ 104 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจากการหารือในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้มีการกำหนดมาตรการทั้งหมด 4 ข้อ คือ 1.เรื่องการป้องกันและการเฝ้าระวังซึ่งสิ่งที่จะดำเนินการถัดจากนี้จะมีการแจกเอกสารให้ความรู้ การปฏิบัติตัว สำหรับผู้ที่เดินทางจากสหภาพยุโรป โดยเฉพาะ 12 ประเทศ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในสายการบินต่างๆ โดยจะมีการให้ข้อมูลเบื้องต้นประกอบกับการให้คำแนะนำ สถานที่ให้คำปรึกษา หากสงสัยตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ด่านควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขที่มีในทุกสนามบิน หากพบว่ามีอาการเช่นถ่ายเป็นเลือด และมีมูกเลือดด้วยและเดินทางมาจาก 12 ประเทศในสหภาพยุโรป ให้พบแพทย์ทันที นอกจากนั้นจะมีการให้ความรู้ความเข้าใจกับกลุ่มทัวร์ต่างๆที่นำลูกทัวร์มาจากประเทศสหภาพยุโรป เพื่อให้ช่วยดูแลหากพบลูกทัวร์ที่มีอาการผิดปกติในลักษณะเข้าข่ายให้พาไปพบแพทย์ทันที
ส่วนประชาชนทั่วไปขอแนะนำให้ใช้มาตรการเดิม คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียอี-โคไล โอ 104 ติดต่อทางอาหารและน้ำ ดังนั้นมาตรการนี้จึงมีความเหมาะสม
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า มาตรการที่ 2 คือเรื่องการตรวจอาหารนำเข้าจากสหภาพยุโรป สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจะทำการสุ่มตรวจ ผัก ผลไม้ ที่นำเข้ามาจากสหภาพยุโรป โดยเฉพาะใน 12 ประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศเยอรมัน เพื่อตรวจหาเชื้อ โอ 104 ซึ่งได้ดำเนินการตรวจมาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2554 และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
มาตรการที่ 3 คือ เรื่องการรักษาพยาบาลจะมีการสั่งการให้โรงพยาบาลทุกสังกัดทั้งรัฐและเอกชนให้ใช้มาตรการเดียวกัน คือการดูแลผู้ป่วย 2 กลุ่มเป็นกรณีพิเศษ ได้แก่ กลุ่มที่ถ่ายเหลว มีน้ำหรือมูกปนเลือด หรือกลุ่มที่ถ่ายเป็นมูกเลือดและมีไตวายเฉียบพลัน และมีประวัติเดินทางกลับจากสหภาพยุโรปในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มป่วย โดยให้ใช้มาตรการ 3 ข้อ คือ1.แพทย์ต้องให้การรักษาทันทีตามอาการ ซึ่งจะมีคู่มือและมาตรการทางการแพทย์อยู่แล้ว 2.ต้องเก็บตัวอย่างส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกราย และ 3.ต้องดำเนินการสอบสวนโรค หากพบผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในข่าย มาตรการที่ 4 กรมควบคุมโรคจะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักขณะนี้ในการติดตามเฝ้าระวังและประสานงานในการแก้ปัญหาทั้งหมดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับเชื้ออี – โคไล ดังกล่าว
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เชื้อนี้ติดต่อกันได้โดยการปนเปื้อนทางน้ำและอาหาร ซึ่งไม่เหมือนโรคไข้หวัด 2009 ที่เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจซึ่งติดต่อได้ง่าย เพราะฉะนั้นมาตรการแก้ปัญหาต้องมีความเหมาะสม หากทำมากไปจะกลายเป็นเรื่องที่ต้องตอบโต้ระหว่างประเทศ หากน้อยไปประชาชนจะไม่ได้รับการคุ้มครอง สิ่งที่พิจารณาได้ทำอย่างถ้วนถี่แล้ว โรคนี้หากเราติดตามสถานการณ์จนถึงวันนี้ เชื่อว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนเนื่องจากเริ่มหาสาเหตุต้นตอการเกิดโรคได้แล้วว่าเกิดจากอะไร
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องการรักษาผู้ป่วยที่มีเม็ดเลือดแดงแตกทำให้เป็นพิษต่อไตทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน วิธีช่วยเหลือที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนถ่ายเลือด(Blood exchange)เพราะหากปล่อยไว้ผู้ป่วยอาจเสียชีวิต ทั้งนี้อาการของผู้ป่วยที่มาพบแพทย์จะมีหลายแบบ แต่แบบที่จะต้องถ่ายเลือดคือแบบไตวายเฉียบพลันร่วมกับมีอาการโลหิตจาง ถ่ายเป็นเลือด หากเป็นอาการอื่นจะรักษาตามอาการ
ด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ไทยนำเข้าผัก ผลไม้จากยุโรปไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นผลไม้ เช่นอโวคาโด ราสเบอรี่ แอปเปิ้ล ส่วนผักจะเป็น บร๊อคโครี่ พลาสลี่ ไม่มาก อย่างถั่วงอกในเบื้องต้นคาดว่าไม่มีนำเข้า ซึ่งในปี 2554 ที่นำเข้าผ่านด่านท่าเรือกรุงเทพ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีเฉพาะผักผลไม้ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรปมีเฉพาะจากประเทศ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เบลเยี่ยม เท่านั้น ส่วนประเทศเยอรมันยังไม่มีการนำเข้า โดยการตรวจจะสุ่มตัวอย่างออกมา 1 กิโลกรัมเพื่อส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2554 มีผู้ป่วยทั้งหมด 2,265 ราย ใน 12 ประเทศ ได้แก่ เยอรมัน ออสเตรีย สาธารณรัฐเชค เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ สเปน สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่มีอาการเม็ดเลือดแดงแตกและไตวายจำนวน 658 ราย เสียชีวิต 22 ราย
........................... 6 มิถุนายน 2554