รู้เร็ว แจ้งเร็วและควบคุมโรคเร็วพร้อมรับมือภัยพิบัติ โรคระบาดและภัยสุขภาพ        ตั้งเป้าครบทุกตำบลใน 5 ปี พร้อมต่อยอดสร้างความเข้มแข็งการควบคุมโรคในระดับอำเภอ

                วันนี้(12 กันยายน 2554) ที่โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนาเครือข่ายอำเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยั่งยืนจัดโดยกรมควบคุมโรค เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานควบคุมโรคของผู้ปฏิบัติงานในระดับอำเภอ และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ นักวิชาการควบคุมโรคจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมสัมมนา  2,500 คน  พร้อมมอบโล่รางวัล อำเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยั่งยืน ดีเด่น ให้18 เขตตรวจราชการด้วย        

นายวิทยา กล่าวว่า  การสัมมนาที่จัดขึ้นในวันนี้  นับว่ามีความสำคัญและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข  เพื่อเตรียมความพร้อมพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรค ระบบการเตือนภัย การจัดการที่มีประสิทธิผล ทันการณ์ เมื่อเกิดภัยพิบัติโรคระบาดและภัยทางสุขภาพ  ซึ่งนอกจากจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง ยังมีผลต่อเศรษฐกิจความเชื่อมั่นในสายตาต่างประเทศด้วย   เนื่องจากโรคระบาดและภัยทางสุขภาพนั้น มีผลกระทบรวดเร็วทั้งจากเทคโนโลยีการสื่อสารและการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว จึงต้องพัฒนาความพร้อมด้านนี้ทั้งในระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล เป็นเครือข่ายการทำงานอย่างบูรณาการ   เพื่อสร้างความมั่นใจประชาชนไทยและชาวต่างประเทศ หากเกิดปัญหาขึ้นไม่ว่าจะในต่างประเทศหรือในประเทศ ก็สามารถปกป้องสุขภาพ ลดการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

นายวิทยากล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข มีทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว หรือเอสอาร์อาร์ที  (SRRT) ระดับอำเภอทั่วประเทศจำนวน 1,030 ทีม ในปี 2554 นี้ มีนโยบายขยายลงสู่ระดับตำบล  โดยนำร่องในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำนวน 2,000 ทีม     ยุทธศาสตร์การทำงานจะเน้นหนักเรื่อง 3 เร็วคือ รู้เร็ว แจ้งเร็ว  และควบคุมโรคเร็ว ทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยเอสอาร์อาร์ทีระดับอำเภอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินผลการดำเนินงาน  ตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะให้มีครบทุกตำบล มั่นใจว่าจะทำให้ระบบการควบคุมป้องกันโรคติดต่อและภัยสุขภาพอื่นของประเทศไทยในอนาคต จะมีความเข้มแข็ง 

           ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งพัฒนาให้มีอำเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยั่งยืน  ให้สามารถสกัด จำกัด ขอบเขตของโรคและภัยสุขภาพหรือผลกระทบของปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ 1.มีองค์กรและโครงสร้างที่เข้มแข็ง มีคณะกรรมการควบคุมโรคระดับอำเภอ โดยความร่วมมือของภาครัฐ ท้องถิ่นและประชาชน 2. มีทีมเอสอาร์อาร์ทีอย่างน้อยตำบลละ1 ทีม และมีระบบข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังโรค สวบสวนโรคและภัยสุขภาพ  3.มีแผนงานควบคุมโรคของอำเภอทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ 4.มีการระดมทรัพยากร ตั้งกองทุนในท้องถิ่นสนับสนุนงานควบคุมโรค และ5.มีความสำเร็จในการควบคุมโรคที่เป็นปัญหาระดับประเทศและโรคในพื้นที่ 

 *****************    12 กันยายน 2554

 



   
   


View 5       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ