วันนี้ (15 กันยายน 2554) ที่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการพัฒนายุทธศาสตร์งานสาธารณสุขระดับอำเภอ ตำบล ประจำปี 2554 พร้อมมอบโล่รางวัลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและสถานีอนามัยดีเด่น ระดับภาคและระดับเขต โดยมีสาธารณสุขอำเภอ นักวิชาการสาธารณสุข จากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมกว่า 5,000 คน หลังจากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลแม่สาย และด่านอาหารและยา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

นายวิทยา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีหน้าที่หลักบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และควบคุมสารตั้งต้นและ เคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการลักลอบผลิตยาเสพติด ได้เร่งดำเนินการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้เป็นรูปธรรม  ในส่วนของผู้ติดสารเสพติด มีสถาบันธัญญารักษ์และโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทุกจังหวัด ให้การบำบัดรักษาและฟื้นฟู  ในปีที่ผ่านมามีผู้เสพสารเสพติดเข้ารับการบำบัด 114,074 ราย ร้อยละ 91 เป็นชาย  โดยร้อยละ 74 เป็นผู้เสพรายใหม่ อาชีพรับจ้างและว่างงาน เมื่อแยกในกลุ่มผู้เสพยา  พบว่าเป็นผู้เสพแต่ยังไม่ติดมีร้อยละ 61 เป็นผู้ติดร้อยละ 36 และเสพติดรุนแรงร้อยละ 3 ยาเสพติดที่เป็นปัญหามากที่สุด คือ ยาบ้า รองลงมา กัญชา สารระเหย เฮโรอีน กระท่อม  นอกจากนี้ในปี 2553 พบว่ามีคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมากถึง 266,010 คดี  โดยเยาวชนอายุ 20-24 ปี ถูกจับกุมมากที่สุด

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในส่วนการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการลักลอบผลิตยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ได้ปฎิบัติตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศทั้ง 3 ฉบับคือ อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2504, อนุสัญญาว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท พ.ศ.2514 และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการค้ายาเสพติดให้โทษและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่ผิดกฎหมายพ.ศ. 2531 เพื่อควบคุมปัญหาการใช้ยาในทางที่ผิด โดยเฉพาะยาที่มีสารที่เป็นสารตั้งต้นยาเสพติด เช่น อีเฟดรีน             (ephedrine),ซูโดอีเฟดรีน (pseudoephedrine),อาเซติคแอนไฮไดรด์ (acetic anhydride)เป็นต้น ร้านขายยาห้ามจำหน่ายยาดังกล่าว โดยได้สั่งการให้ด่านอาหารและยาที่มี 41 ด่านกระจายทั่วประเทศ เฝ้าระวัง สกัดกั้นการนำเข้า-ส่งออกตามแนวชายแดนทุกด่านอย่างเข้มงวด  

สำหรับที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพื้นที่อยู่ติดกับประเทศพม่า มีด่านอาหารและยา 4 แห่งคือ ที่ท่าอากาศยานเชียงราย ,อ.แม่สาย ,อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ล่าสุดได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 ได้ตรวจยึดยาแก้หวัด ของกลางจำนวน 9 รายการ รวม 100,000 เม็ด ตรวจพบเป็นยาแก้หวัดสูตรผสมที่มีซูโดอิเฟดรีน เป็นส่วนประกอบ ซึ่งยาจำนวนนี้ หากหลุดลอดไปได้ จะสามารถนำไปผลิตเป็นยาบ้าได้ประมาณ 300,000 เม็ด

สำหรับผลการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดที่จังหวัดเชียงราย ในปี 2554 นี้ มีผู้เข้ารับการบำบัด 4,857 ราย เป็นผู้เสพยาบ้าอันดับ 1 ร้อยละ 58 รองลงมาคือฝิ่นร้อยละ 27 เฮโรอีนร้อยละ 14 กว่าครึ่งคือร้อยละ 58 หรือ2,843 ราย เป็นผู้เสพรายใหม่  โดยผู้เสพประมาณ 1 ใน 3 อายุมากกว่า 39 ปี  รองลงมาคืออายุ 18-24 ปีพบ 1 ใน 4  ผู้ที่เข้ารับการบำบัดมาจาก 5 อำเภอได้แก่ เมืองเชียงราย, แม่สรวย, เวียงป่าเป้า, แม่ฟ้าหลวง และแม่สาย

 *****************************************   15 กันยายน 2554



   
   


View 13    15/09/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ