สาธารณสุข เร่งแก้ไขปัญหายาเสพติด สนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ออกกฎกระทรวงห้ามขายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนในร้านขายยา มีผลบังคับใช้เดือนธันวาคม 2554 นี้ ส่วนปัญหาการแพร่ระบาดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 200,000 คน  ใช้ยุทธศาสตร์พัฒนามัสยิดเป็นศูนย์บำบัดและฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดประจำอำเภอ เป็นศูนย์ฟื้นฟูใกล้บ้านใกล้ใจ  ได้ผลดีมาก ไม่กลับไปเสพติดซ้ำร้อยละ 93 ตั้งเป้าภายในปีงบประมาณ 2555จะขยายผลครอบคลุมทุกอำเภอ

วันนี้ (19 กันยายน 2554) ที่จ.ปัตตานี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และน.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เปิดโครงการพัฒนาศักยภาพการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดในชุมชน โดยพัฒนามัสยิดเป็นศูนย์สงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดประจำอำเภอ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ทีมบำบัดในมัสยิดและเยาวชนที่เข้ารับการบำบัด
นายวิทยา กล่าวว่า จากความห่วงใยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงอยากให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการแก้ไขเพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถและสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการควบคุมสารตั้งต้นจากยาแก้หวัดที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวเรา แต่ถูกนำไปลักลอบใช้ผลิตยาเสพติด ทำให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อ ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2554 ได้ลงนามในประกาศควบคุมยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เป็นยาควบคุมพิเศษ ห้ามขายในร้านขายยา อนุญาตให้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลที่มีเตียงรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนเท่านั้น   และจะมีผลบังคับใช้หลังลงประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา 90 วันประมาณเดือนธันวาคม 2554
นายวิทยา กล่าวต่อว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดอยู่ในเกณฑ์สูงของประเทศ มีเยาวชนอายุระหว่าง 15-24 ปี เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นจำนวนมากถึง 200,000คน ยาเสพติดหลักๆ ที่แพร่ระบาดคือ น้ำกระท่อมต้มผสมกับสารเสพติดตัวอื่น ๆ หรือที่เรียกว่า สี่คูณร้อย รวมทั้งยาบ้าและกัญชา เยาวชนกลุ่มที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการยาเสพติด ส่วนใหญ่ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพในสถานบำบัดของภาครัฐ
ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข จึงได้พัฒนามัสยิดซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของชุมชน ให้เป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดประจำอำเภอ เป็นศูนย์ใกล้บ้านใกล้ใจ เป็นทางเลือกหนึ่งให้ผู้เสพยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดมากยิ่งขึ้น พี่น้องชาวมุสลิมได้ร่วมกันตั้งชื่อว่ามัสยิดศูนย์ส่องทางสู่ชีวิตใหม่ : ปูซัดเกอฮีดูปันบารู โดยมีโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่เป็นพี่เลี้ยง และให้อสม.ติดตามผลการบำบัด มีรูปแบบการบำบัดฟื้นฟูที่สอดคล้องกับหลักศาสนาและวิถีชุมชนของชาวไทยมุสลิม โดยให้ครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วมด้วย  
 ผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2552 มีมัสยิดในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาสได้รับการพัฒนาเป็นศูนย์บำบัดฯแล้ว 13 แห่งมีเยาวชนเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู 757 คน หลังบำบัดประสบผลสำเร็จสูงมาก พบว่าร้อยละ 93 ไม่กลับไปใช้ยาและสารเสพติดซ้ำอีก ตั้งเป้าภายในปีงบประมาณ 2555จะขยายผลให้มัสยิดทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถบำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดได้ครอบคลุม
 ***********19 กันยายน 2554


   
   


View 13    19/09/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ